โดย ครูไอซ์

เก็งข้อสอบ SAT Math ปี 2022 ออกชัวร์ ๆ มาดูกัน อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันสอบ SAT กันแล้ว ซึ่งปีนี้ การสอบ SAT จะเหลือเพียง 3 รอบเท่านั้น ที่น้อง ๆ จะได้สอบกันแบบ Paper-based เนื่องจากในปี 2023 ทาง College Board ซึ่งเป็นผู้จัดการสอบ SAT จะปรับมาใช้การสอบ SAT ในรูปแบบ Digital หรือ Computer-based นั่นเอง โดยรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการสอบจะประกาศให้ทราบเร็ว ๆ นี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> ทำความรู้จักกับ Digital SAT การสอบรูปแบบใหม่
น้อง ๆ เคยลองสังเกตกันไหมว่า ข้อสอบ SAT Math มันมีหลากหลายแนวมาก แต่ในความหลากหลายแนวนั้น ก็จะมีอยู่บางแนวที่ถือเป็นแนวยอดฮิตมาตลอดทุกรอบ ซึ่งนั่นหมายความว่าถ้าเราสามารถที่จะทำโจทย์แนวนั้น ๆ ได้สบาย ๆ ก็จะการันตีคะแนนอัป+ อัป+ อัป+ ให้เราได้อย่างแน่นอน วันนี้พี่กริฟฟินลองเก็งข้อสอบ SAT Math ที่เรียกได้ว่าเจอแน่ ๆ มาให้น้อง ๆ ได้ดูกัน
ก่อนอื่นเลยพี่ขอจัดหมวดหมู่ของแนวโจทย์ยอดฮิตเหล่านั้นออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่
- เจอทุกรอบ ไม่ว่าสอบเมื่อไหร่
- เจอโดยส่วนใหญ่ มีหายไปแค่ให้พอคิดถึง
- Rising Star เมื่อก่อนไม่ค่อยเจอ แต่เดี๋ยวนี้ตัวเธอมาบ่อยจัง
เก็งข้อสอบ SAT Math เจอทุกรอบ ไม่ว่าสอบเมื่อไหร่
พี่กริฟฟินรับประกันได้เลย เจอทุกรอบ ไม่ว่าสอบเมื่อไหร่ ในหมวดนี้จะมีข้อสอบอยู่ทั้งหมด 4 แนวด้วยกัน ดังนี้
น้องบางคนขมวดคิ้วพร้อมเสียงที่ดังในใจว่า “อะไรกันครับเนี่ยยยยย” เอางี้เดี๋ยวพี่ยกตัวอย่างโจทย์ให้ดูง่าย ๆ กันดีกว่า
แนวที่ 1 : Linear equation in one variable : Fluently solve a linear equation in one variable
พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือโจทย์แก้สมการที่มีตัวแปรเดียวนั่นแหละครับ โจทย์ที่เรียกว่าง่ายในระดับแจกคะแนน แต่ดันออกทุกรอบ เฉลี่ยรอบละ 2 ข้อ เอาตัวอย่างไปดูให้ชัด ๆ กันไปซัก 2 ข้อละกัน
จะเห็นว่าแค่แก้สมการย้ายข้างธรรมดาเลย ถ้าน้อง ๆ ฝึกฝนจนชำนาญรับรองว่าได้คะแนนจากแนวนี้แน่นอน
แนวที่ 2 : Linear equation in two variables
คราวนี้มาดูในแบบถัดไป แบบที่สองนี้จะเพิ่มความทักษะในการวิเคราะห์ขึ้นมาอีกนิดหน่อย นั่นก็คือแนว
Linear equation in two variables : Make connections between verbal, tabular, algebraic, and graphical representations of linear function by deriving one representation from the other
ในข้อสอบ SAT Math หัวข้อ Linear equation in two variables หรือสมการเชิงเส้นสองตัวแปร หรือสมการเส้นตรงนั่นเอง ข้อสอบจะมีรูปแบบของสมการเส้นตรงอยู่ทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน นั่นคือ สมการ, กราฟ, ตาราง และข้อความตัวหนังสือ ซึ่งโจทย์แนวนี้จะให้มาแบบใดแบบหนึ่งจากทั้งหมด 4 แบบ แล้วให้เราเปลี่ยนไปเป็นแบบอื่น ๆ เช่น ให้สมการแล้วให้เราเปลี่ยนเป็นกราฟ หรือให้ตารางแล้วให้เราเปลี่ยนเป็นสมการ เป็นต้น สองสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ สำหรับโจทย์แนวนี้ก็คือ Slope หรือความชัน และ y-intercept หรือจุดตัดแกน y ครับ ทั้งสองจะเป็นตัวตัดสินว่าข้อใดถูกข้อใดผิดนั่นเอง มาลองดูตัวอย่างโจทย์กัน
แนวที่ 3 : Linear equation system
สำหรับแนวที่สาม : Fluently solve a system of linear equations in two variables ก็ยังคงเป็นแนวการแก้สมการอยู่ เพียงแต่แนวนี้จะมีสองสมการกับสองตัวแปรหรือที่เราเรียกกันว่า System นั่นเอง แนวนี้มีอยู่ทั้งใน Section ที่ 3 และ 4 เลย ถ้าเจอใน Section 4 ถือว่าแจกคะแนนเลยก็ว่าได้ เพราะแค่รู้วิธีกดเครื่องคิดเลขก็สามารถหาคำตอบได้แล้ว ลองมาดูตัวอย่างกันครับ
แนวที่ 4 : Rate and Ratio
มาถึงแนวสุดท้ายกันแล้วนะครับ แนวที่ 4 ขอเปลี่ยนความรู้สึกกันสักหน่อย เจอสมการมาเยอะแล้ว แนวนี้จะเป็นเรื่อง Rate and Ratio ครับ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแนวโจทย์ที่มีความหลากหลายมาก ซึ่งเกิดจากโจทย์สามารถเอาเรื่องอะไรมาออกก็ได้ เช่น จำนวนคน จำนวนสิ่งของ เงิน หรือความเร็ว เป็นต้น จึงทำให้โจทย์แนวนี้น้อง ๆ จะต้องทำการวิเคราะห์ค่อนข้างเยอะ แต่ไม่ต้องกังวลไป หากได้ฝึกทำโจทย์เยอะ ๆ บวกกับรู้เทคนิคในการคิดที่ทำให้โจทย์ง่ายขึ้นก็จะสามารถทำได้ถูกต้องไม่ยาก มาลองดูตัวอย่างโจทย์กัน
จากแนวโจทย์ทั้ง 4 แบบที่ออกทุกรอบนี้ หากน้อง ๆ สามารถทำได้อย่างคล่องแคล่วจะสามารถทำข้อสอบได้แล้วประมาณ 9-10 ข้อจากทั้งหมด 58 ข้อนะครับ เห็นไหมครับว่าถ้าเราวิเคราะห์ข้อสอบดี ๆ การเตรียมตัวจะง่ายขึ้นเยอะ ช่วยให้เราเก็บคะแนนใส่กระเป๋าไว้ได้เลย
ในครั้งต่อไปพี่กริฟฟินจะพาไปดูแนวโจทย์ในสองกลุ่มที่เหลือว่ามีแนวไหนอีกที่เรามีโอกาสจะได้เจอในข้อสอบ SAT Math ปี 2022 นี้