เชื่อว่าน้อง ๆ หลายคนที่มีเป้าหมายอยากเรียนต่อหลักสูตรวิทยาศาสตร์การแพทย์หลักสูตรนานาชาติในประเทศไทยคงรู้จักการสอบเฉพาะทางอย่างการสอบ BMAT เป็นอย่างดี ซึ่งในตอนนี้ทาง Cambridge ได้ประกาศยกเลิกการสอบ BMAT ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (ปี 2566 เป็นการจัดสอบปีสุดท้าย) สำหรับข้อสอบที่มาทดแทนการสอบ BMAT ในประเทศไทยจะเป็นอะไรนั้น หากเราได้รับข้อมูลเพิ่มเติม จะมาแจ้งให้น้อง ๆ ทราบอีกครั้งนะคะ
สำหรับใครที่มีเป้าหมายเรียนแพทย์และทันตแพทย์ในประเทศอังกฤษและประเทศในเครือสหาราชอาณาจักร น้อง ๆ จะต้องทำการสอบ UCAT ข้อสอบวัความถนัดทางคลินิกเพื่อใช้คะแนนยื่นประกอบการพิจารณา ซึ่งนอกข้อสอบ BMAT และ UCAT ที่นักเรียนแพทย์ต้องทำความคุ้นเคยแล้ว ยังมีข้อสอบอีกชุดที่เราอยากแนะนำให้น้อง ๆ ทำความรู้จักควบคู่กันไปเพื่อเป็นตัวเลือกในการสอบ โดยเฉพาะกับผู้ที่ต้องการไปเรียนต่อสายแพทย์ในอเมริกาและแคนาดา นั่นก็คือข้อสอบ MCAT นั่นเอง
ข้อสอบ MCAT คืออะไร?
The Medical College Admission Test หรือ ข้อสอบ MCAT คือ ข้อสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในคณะทางการแพทย์ที่จัดสอบโดยสมาคมวิทยาลัยการแพทย์อเมริกัน (AAMC – Association of American Medical Colleges) ซึ่งนอกจากคะแนนสอบ MCAT ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในมหาวิทยาลัยชื่อดังทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาและแคนาดาว่าเป็นการสอบคัดนักศึกษาแพทย์ที่มีคุณภาพแล้ว มหาวิทยาลัยบางแห่งในประเทศไทยก็มีการเปิดรับคะแนนสอบนี้ด้วยเช่นกัน
จุดเด่นของคะแนนสอบ MCAT
- ตัวคะแนนสามารถเก็บไว้ใช้งานได้ยาวนานถึง 3 ปี
- มีรอบการสอบปีละหลายครั้งในช่วงเดือนมกราคม – กันยายนของทุกปี
- เปิดโอกาสให้สมัครสอบได้สูงสุดปีละ 3 ครั้ง
จึงทำให้เป็นหนึ่งในข้อสอบแพทย์ที่หลาย ๆ คนหันมาให้ความสนใจกันมากขึ้นนั่นเอง
ข้อสอบ MCAT สอบอะไร?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าข้อสอบ MCAT เป็นข้อสอบที่ใช้สำหรับสอบเข้าคณะแพทย์ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา รายวิชาในการสอบจึงจะเน้นไปที่ความรู้ความเข้าใจทางด้านวิทยาศาสตร์ ชีววิทยา ฟิสิกส์ เคมี และความรู้ทางด้านการแพทย์เป็นหลัก รวมไปถึงวัดทักษะด้านการคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อประเมินความพร้อมก่อนสมัครเข้าเรียนแพทย์
โดยตัวข้อสอบจะเป็นในรูปแบบปรนัย (เลือกตอบ) ฉบับภาษาอังกฤษทั้งหมด จำนวน 230 ข้อ มีคะแนนเต็มอยู่ที่ 528 คะแนน กำหนดเวลาการสอบที่ 6 ชั่วโมง 15 นาที โดยแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้
1. Biological and Biochemical Foundations of Living Systems
พื้นฐานชีววิทยาและชีวเคมีของระบบสิ่งมีชีวิต
ในอัตราส่วนชีววิทยา 65%, ชีวเคมี 25%, เคมีเบื้องต้น 5%, และเคมีอินทรีย์ 5% จำนวนทั้งหมด 59 ข้อ คะแนนเต็ม 132คะแนน และกำหนดเวลาการสอบที่ 95 นาที
2. Chemical and Physical Foundations of Biological Systems
พื้นฐานเคมีและฟิสิกส์ของระบบสิ่งมีชีวิต
ในอัตราส่วนเคมีทั่วไป 30%, ฟิสิกส์เบื้องต้น 25%, ชีวเคมี 25%, เคมีอินทรีย์ 15% และชีววิทยาเบื้องต้น 5% จำนวนทั้งหมด 59 ข้อ คะแนนเต็ม 132 คะแนน และกำหนดเวลาการสอบที่ 95 นาที
3. Psychological, Social, and Biological Foundations of Behavior
พื้นฐานทางจิตวิทยา สังคมวิทยา และชีววิทยาของพฤติกรรม
ในอัตราส่วนจิตวิทยาเบื้องต้น 65%, สังคมวิทยาเบื้องต้น 30% และชีววิทยาเบื้องต้น 5% จำนวนทั้งหมด 59 ข้อ คะแนนเต็ม 132 คะแนน และกำหนดเวลาการสอบที่ 95 นาที
4. Critical Analysis and Reasoning Skills
ทักษะการวิเคราะห์และการให้เหตุผล
ในอัตราส่วนการใช้เหตุผลนอกเหนือจากข้อความที่กำหนด 40% การใช้เหตุผลภายในข้อความที่กำหนด 30% และการทำความเข้าใจเบื้องต้น 30% จำนวนทั้งหมด 53 ข้อ คะแนนเต็ม 132 คะแนน และกำหนดเวลาการสอบที่ 90 นาที
อัตราค่าสมัครสอบและวิธีการสมัครสอบ MCAT
อัตราค่าสมัครสอบ MCAT จะอยู่ที่ $335 หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 12,000 บาท (ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินในช่วงเวลาที่สมัครสอบ)
โดยผู้ที่มีความประสงค์จะสอบ MCAT จะต้องเข้าไปสมัครแอคเคาท์ภายใน เว็บไซต์ จากนั้นกดที่ Register for the MCAT Exam เลือกวันเวลาที่ต้องการสอบ กรอกข้อมูลส่วนตัวแล้วเลือกสถานที่สอบที่สะดวกและดำเนินการชำระค่าสอบ โดยข้อสอบ MCAT จะมีการเปิดสอบในช่วงเดือนมกราคมไปจนถึงกันยายนของทุกปี
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่าง BMAT vs UCAT vs MCAT
