Skip to content

IGCSE คือ อะไร ?

IGCSE คืออะไร

IGCSE คือ อะไร ?

International General Certificate of Secondary Education หรือ IGCSE คือ การสอบเทียบวุฒิระดับเทียบเท่า Year 10 – 11 ของประเทศอังกฤษที่ทาง CAIE (Cambridge Assessment International Education) เป็นผู้พัฒนาขึ้น โดยเป็นวุฒิพื้นฐานก่อนต่อยอดการสอบ A-Level/ AS-Level หรือ Cambridge Pre-U ที่สามารถใช้ยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีกับมหาวิทยาลัยชั้นนำจากทั่วโลก ซึ่งสำหรับโรงเรียนนานาชาติหลากหลายแห่งในประเทศไทยก็ใช้หลักสูตร IGCSE ด้วยเช่นกัน

IGCSE เทียบเท่าวุฒิอะไร ?

กระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทยได้ออกประกาศรับรองว่า IGCSE คือ วุฒิการศึกษาที่เทียบเท่ากับระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 แต่หากต้องการเทียบวุฒิในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) จะต้องสอบ A-Level/ AS-Level เพิ่มอีก 3 รายวิชา ดังที่ได้ระบุเอาไว้ในประกาศที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย เรื่อง เกณฑ์การเทียบวุฒิการศึกษาเท่ากับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในระบบคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ประจำปี 2566 (TCAS67) ดังนี้

ระบบอังกฤษ

ผู้สมัครมี (1) ผลการสอบระดับ GCE ‘A’ Level จำนวนอย่างน้อย 3 วิชา เกรด A*-E หรือ (2) LRN International A Levels จำนวนอย่างน้อย 3 วิชา เกรด A*-E หรือ (3) ผลการสอบ Cambridge Pre-U จำนวนอย่างน้อย 3 วิชา เกรด M1 หรือ D1-D3

ข้อมูลอ้างอิง คลิก

IGCSE เหมาะกับใคร ?

IGCSE คือ การสอบที่เปิดให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 14 – 16 ปี สามารถลงสมัครสอบได้ นอกจากจะเหมาะกับผู้ที่เรียนในหลักสูตรนานาชาติที่ใช้ระบบการศึกษาแบบประเทศอังกฤษแล้ว น้อง ๆ ที่เรียนในระบบ Home School หรือระบบอื่น ๆ เองก็สามารถลงสมัครสอบได้เช่นกัน ส่วนการสอบ A-Level หรือ AS-Level ที่เป็นรายวิชาเพิ่มเติมต่อยอดจาก IGCSE จะเปิดให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16 – 19 ปี สามารถลงสมัครสอบได้หลังจากสอบ IGCSE ผ่านตามเกณฑ์ เพื่อนำวุฒิไปยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย

ทั้งนี้ ผู้สอบ IGCSE จะสามารถเลือก “รายวิชาที่ต้องการสอบ” ได้เองเป็นจำนวน 5 รายวิชา ก่อนต่อยอดไปสอบ A-Level/ AS-Level อีก 3 รายวิชา จึงจะแตกต่างจากการสอบเทียบวุฒิแบบ GED ที่สอบเพียงแค่ 4 รายวิชา (ไม่สามารถเลือกวิชาเองได้) ก็สามารถยื่นเทียบวุฒิม.6 ได้เลย ทำให้การสอบ IGCSE เหมาะกับน้อง ๆ ที่มีเป้าหมายการเรียนที่ชัดเจนและต้องการพัฒนาทักษะเฉพาะด้านให้พร้อมต่อการเรียนต่อในอนาคต

เลือกสอบ GED หรือ IGCSE แบบไหนดี ? อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

IGCSE สอบอะไรบ้าง ?

น้อง ๆ จะต้องสอบ IGCSE ทั้งหมด 5 วิชา ด้วยเกรดไม่ต่ำกว่า C เพื่อผ่านหลักสูตร โดยวิชาที่บังคับสอบ คือ คณิตศาสตร์ (Mathematics) และ ภาษาอังกฤษ (English as a second language) และเลือกสอบเพิ่มอีก 3 วิชาได้ตามความถนัดแและตามความสนใจของผู้สอบ ซึ่งมีรายวิชาให้เลือกสอบมากกว่า 70 รายวิชาย่อย สามารถแบ่งออกได้เป็น 6 หมวดหมู่ ดังนี้

  1. กลุ่มวิชาภาษาอังกฤษ* (English language and literature) เช่น English as a second language (Count-in-speaking), English (as an Additional Language), English (Literature in English), World Literature
  2. กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์* (Mathematics) เช่น Mathematics, Mathematics Additional, Mathematics International
  3. กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ (Sciences) เช่น Agriculture, Biology, Chemistry, Environmental Management, Marine Science, Physics
  4. กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (Humanities and Social Sciences) เช่น Economics, Geography, Global Perspectives, History, Religious Studies, Sociology
  5. กลุ่มวิชาภาษาต่างประเทศ (Foreign Language) เช่น Arabic, Chinese, French, German, Italian, Portuguese, Spanish, Thai, Vietnamese
  6. กลุ่มวิชาทักษะวิชาชีพ (Creative and professional) เช่น Accounting, Art & Design, Business Studies, Computer Science, Design & Technology, Drama, Enterprise, Food & Nutrition, Information and Communication Technology, Music, Travel & Tourism

สามารถเลือกดูรายวิชาทั้งหมดได้ ที่นี่

    ระบบคะแนนของ IGCSE

    IGCSE จะแบ่งการคิดคะแนนออกเป็น 2 รูปแบบ ตามความยากของข้อสอบที่เลือก ได้แก่ ระดับพื้นฐาน (Core) และระดับสูง (Extended) โดยน้อง ๆ จะสามารถเลือกสอบได้เพียงระดับเดียวต่อ 1 รายวิชาเท่านั้น

    • ข้อสอบ IGCSE ระดับพื้นฐาน (Core) จะมีการสอบเกี่ยวกับรายวิชานั้น ๆ ในระดับทั่วไป ใช้เวลาน้อยกว่า และจำนวนข้อน้อยกว่า Extended เกรดที่ได้จะมีตั้งแต่ C, D, E, F, G
    • ข้อสอบ IGCSE ระดับสูง (Extended) จะเป็นการสอบเนื้อหาเชิงลึกของรายวิชานั้น ๆ มีจำนวนข้อสอบและเวลาสอบที่มากกว่าการสอบระดับพื้นฐาน (Core) เกรดที่ได้จะมีตั้งแต่ A*, A, B, C, D, E, F, G

    เลือกสอบวิชา IGCSE อย่างไรดี ?

    วันนี้พี่กริฟฟินจะมาแนะนำเพิ่มเติมหากเรายังไม่แน่ใจว่าจะสอบอะไรดี โรงเรียนส่วนใหญ่จะกำหนดให้นักเรียนต้องสอบอย่างน้อย 5 วิชา ซึ่งจะต้องมี 2 วิชาบังคับ ได้แก่ ภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ นอกเหนือจากวิชาหลักเหล่านี้แล้วน้อง ๆ สามารถเลือกวิชาอื่น ๆ จากหลายหลายสาขาวิชาได้ เช่น ศิลปะ, เทคโนโลยี, มนุษยศาสตร์ ฯลฯ

    การเลือกวิชา IGCSE จะต้องคำนึงถึงความสนใจ แผนการเรียนและอาชีพในอนาคตที่น้อง ๆ แต่ละคนสนใจ รวมถึงวิชาที่ทางมหาวิทยาลัยต้องการ เช่น 

    • หากน้อง ๆ สนใจที่จะเรียนหรือทำงานในสาย Technology เราก็ควรที่จะเลือกวิชา Design & Technology หรือ Computer Science ซึ่งถือเป็นวิชาพื้นฐานที่ควรมีในสายงานนั้น ๆ
    • หากน้อง ๆ สนใจในการเรียนหรือทำงานในสายงานธุรกิจ วิชาที่ควรจะเลือกสอบก็คือ Business Studies, Enterprise, Accounting, Economics 
    • หากน้อง ๆ สนใจในสายงาน Engineer วิชาที่ควรจะเลือกสอบก็คือ Mathematics, Additional Mathematics, Chemistry, Physical Sciences

    นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างที่พี่กริฟฟินแนะนำ อย่างไรก็ตามน้อง ๆ ควรศึกษาวิชาที่จำเป็นต้องสอบหรือวิชาที่น้อง ๆ สนใจ ไม่จำเป็นต้องเลือกสอบหลายวิชาที่มากเกินไป เพียงแค่เลือกวิชาที่สามารถทำได้ดี เพื่อที่จะได้เกรดดี ๆ ในการยื่นเข้ามหาวิทยาลัยนั่นเอง

    การสมัครสอบและอัตราค่าสมัครสอบ IGCSE 

    สำหรับการสมัครสอบ IGCSE จะมีการเปิดสอบทั้งหมดปีละ 2 รอบ ในช่วงเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน และช่วงเดือนตุลาคม – พฤศจิกายนของทุกปี (ผลการสอบจะออกหลังวันสอบราว 2 เดือน) โดยจะมีการเปิดลงสมัครสอบ 2 รอบ ได้แก่ รอบปกติและรอบเก็บตก (ลงทะเบียนล่าช้า) 

    โดยน้อง ๆ สามารถเข้าไปสมัครสอบกับทาง British Counsil ได้โดยตรง

    1. เข้าไปที่ Website https://www.britishcouncil.or.th/ และเลือกสอบที่ประเทศไทย
    2. เลือกหน่วยงานจัดสอบเป็น Cambridge International จากนั้นเลือกช่วงเวลาการสอบ, ประเภทการสอบ, ศูนย์สอบ และรายวิชาที่ต้องการสอบ
    3. เข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกและชำระค่าสอบ
    4. ตรวจสอบรายละเอียดการสมัครสอบในอีเมล โดยผู้สอบจะได้อีเมลเตือนเกี่ยวกับรายละเอียดการสอบอีกครั้งหนึ่งภายใน 2 สัปดาห์ก่อนวันสอบ

    ทั้งนี้ อัตราค่าสมัครสอบ IGCSE จะขึ้นอยู่กับรายวิชาที่เลือกสอบ แต่ในเบื้องต้นจะอยู่ที่ 6,300 – 11,000 บาท และมีค่าลงทะเบียนสอบล่าช้าเพิ่มเติมในกรณีลงสอบในรอบเก็บตก แต่หากเป็นการลงสอบซ้ำ ค่าสอบจะถูกลงจากอัตราค่าสอบปกติ

    สอบ IGCSE ที่ไหนได้บ้าง ?

    นอกจากการสมัครสอบกับทาง British Counsil แล้ว น้อง ๆ ยังสามารถสมัครสอบโดยตรงกับโรงเรียนนานาชาติที่เป็นศูนย์สอบ IGCSE เช่น Harrow International School Bangkok, Satit Bilingual School of Rangsit University (SBS) หรือ Singapore International School of Bangkok เป็นต้น

    วิธีการเช็กผลสอบ IGCSE ออนไลน์

    สามารถเช็คผลสอบ IGCSE ออนไลน์ได้ตามขั้นตอน ดังนี้

    1. ต้องลงทะเบียนเพื่อรับบริการผลสอบออนไลน์ ซึ่งต้องเข้าไปที่ Cambridge English Online Service
    2. คลิกปุ่มลงทะเบียน
    3. ใส่ ID ผู้สมัครและหมายเลขลับจากการยืนยันการเข้า
    4. ใส่ที่อยู่อีเมลและรหัสผ่าน
    5. เมื่อผลสอบพร้อม จะได้รับอีเมลยืนยัน จากนั้นจึงสามารถเข้าสู่ระบบเพื่อดูผลสอบได้

    คะแนน IGCSE และ A-Level/ AS-Level ใช้ยื่นเข้ามหาวิทยาลัยไหนได้บ้าง ?

    หลังจากที่น้อง ๆ สอบ IGCSE ผ่านทั้ง 5 วิชา และสอบ A-Level/ AS-Level 3 วิชา ผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนด ก็สามารถนำคะแนนไปเทียบวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเพื่อใช้เป็นเอกสารยื่นเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยในหลักสูตรอินเตอร์ได้ทั้งในไทยและต่างประเทศ ทั้งนี้เกณฑ์การรับเข้าศึกษาจะมีความต่างกันออกไปตามแต่ละมหาวิทยาลัยและคณะวิชาที่เลือกเข้าเรียน ทาง House of Griffin จึงขอแนะนำให้น้อง ๆ เช็ก Requirement กับทางเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยโดยตรงอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ การสมัครเรียนในบางหลักสูตรอาจต้องแนบคะแนนทดสอบความถนัดด้านอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย

    ตัวอย่างรายชื่อมหาวิทยาลัยในประเทศไทยที่เปิดรับการเทียบวุฒิการศึกษาระบบอังกฤษ (A-Level)

    • จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    • มหาวิทยาลัยมหิดล
    • มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
    • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
    • มหาวิทยาลัยศิลปากร
    • มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ
    • สถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
    • มหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด
    • มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ

    ติว IGCSE ด้วยวิชาที่ใช่ เตรียมต่อยอด A Level สอบเทียบคว้าวุฒิ ม.ปลาย ระบบอังกฤษ

    เตรียมพร้อมสอบ IGCSE ปูพื้นฐานแน่นต่อยอดสอบ A-Level/ AS-Level ยื่นวุฒิเทียบเท่า ม.6 เรียนต่อคณะในฝันกับ House of Griffin สถาบันติวสอบสำหรับเด็กสายอินเตอร์ที่เปิดให้บริการมากว่า 14 ปี เลือกเรียนได้ทั้งคอร์สติว IGCSE แบบตัวต่อตัว (Private) และแบบติวร่วมกับเพื่อนเป็นกลุ่มเล็ก (Semi-Private) ที่น้อง ๆ สามารถเลือกรายวิชาการเรียนเพื่อเสริมความรู้ได้ตามที่ต้องการ พร้อมเก็บเทคนิคการทำสอบแบบครบทุกจุด ตะลุยข้อสอบเก่าย้อนหลัง ติวเข้มอย่างละเอียดและครอบคลุมทุกประเด็น 

    Share this article