International English Language Testing System หรือที่เรียกกันแบบย่อ ๆ ว่า IELTS คือ ข้อสอบวัดระดับความสามารถในการใช้งานภาษาอังกฤษทั้ง 4 ทักษะ (ฟัง, พูด, อ่าน, เขียน) ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันระหว่าง British Counsil, Cambridge และ IDP (IELTS Australia) ในปี 1989 โดยคะแนน IELTS นั้นเป็นที่ยอมรับจากองค์กรทั้งภาครัฐ เอกชน และสถานศึกษาชั้นนำกว่า 11,000 แห่ง ใน 140 ประเทศทั่วโลก สามารถนำเอาไปใช้ยื่นเข้าศึกษาต่อและยื่นเข้าทำงานในประเทศที่ใช้งานภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก และในประเทศไทยเองก็นิยมใช้คะแนน IELTS เป็นหนึ่งในเกณฑ์การรับเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรอินเตอร์ของมหาวิทยาลัยหลายแห่งอีกด้วย
IELTS มีกี่ประเภท ?
หลาย ๆ คนอาจจะคุ้นเคยกับการแบ่งประเภทการสอบ IELTS ออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ IELTS Academic และ IELTS General Training ที่จะมีความยาก-ง่ายของการใช้งานคำศัพท์ที่ต่างกันออกไปตามจุดประสงค์การใช้งาน แต่นอกเหนือจาก IELTS Academic และ General ยังมีการสอบ IELTS ที่ใช้สำหรับการยื่นคำร้องกับกองวีซ่าและการตรวจคนเข้าเมืองแห่งสหราชอาณาจักร 2 อีกประเภทย่อย คือ IELTS for UKVI และ IELTS Life Skill อีกด้วย
IELTS Academic
IELTS Academic หรือข้อสอบ IELTS เชิงวิชาการ สำหรับผู้ที่ต้องการนำคะแนนไปใช้ในการศึกษาต่อในอนาคต โดยข้อสอบจะเป็นการวัดระดับความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้านในเชิงวิชาการ โดยผลสอบ IELTS Academic สามารถนำเอาไปยื่นเรียนต่อได้ทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกในหลักสูตรอินเตอร์ของประเทศไทยและต่างประเทศ
IELTS General Training
IELTS General Training หรือข้อสอบ IELTS แบบทั่วไป สำหรับผู้ที่ต้องการนำเอาคะแนนไปยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับต่ำกว่าปริญญา หรือในการสมัครงานกับองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก รวมไปถึงยังสามารถใช้เพื่อยื่นขอวีซ่าย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักรได้อีกด้วย โดยข้อสอบจะเป็นการวัดความรู้ภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้านในระดับพื้นฐาน และการสื่อสารทั่วไปในชีวิตประจำวัน
IELTS for UKVI
สำหรับ IELTS for UKVI คือ ข้อสอบ IELTS เฉพาะทางเพื่อใช้เข้าศึกษาต่อ การทำงานหรือย้ายถิ่นฐานมายังสหราชอาณาจักร โดยจะมีการสอบคล้ายกับ IELTS ทั่วไปทุกประการ (แบ่งการสอบเป็น General และ Academic ตามจุดประสงค์การสอบ) แต่คะแนนของ IELTS for UKVI (Academic) จะสามารถใช้ยื่นเรียนคอร์สปรับพื้นฐาน (Pre-sessional English Course) ก่อนเริ่มเรียนมหาวิทยาลัยในอังกฤษได้หากคะแนนแรกเข้าไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำที่สถาบันกำหนดโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมการเรียน (สำหรับมหาวิทยาลัยในไทย สามารถใช้คะแนน IELTS for UKVI ยื่นสมัครเรียนได้เช่นกัน)
IELTS Life Skill
ในส่วนของ IELTS Life Skill คือ ข้อสอบ IELTS เฉพาะทางสำหรับผู้ที่ต้องการยื่นวีซ่าย้ายถิ่นฐานมายังสหราชอาณาจักร โดยจะสอบเฉพาะด้านการฟังและการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร มีการแบ่งระดับการสอบเป็น 2 ระดับ ได้แก่ A1 สำหรับผู้ที่ต้องการทดสอบทักษะทางภาษาระดับพื้นฐานเพื่อขอวีซ่าติดตามคู่สมรสหรือครอบครัวและ B1 สำหรับผู้ที่ต้องการทดสอบทักษะทางภาษาระดับปานกลางเพื่อยื่นขอเป็นพลเมือง ทั้งนี้ การสอบ IELTS Life Skill จะใช้เวลาสอบเพียง 16 – 22 นาที และไม่มีคะแนนการสอบ มีเพียงแค่การระบุผลสอบว่าผ่านหรือไม่ผ่านเท่านั้น (คะแนนสอบ IELTS Life Skill ไม่สามารถใช้ยื่นเข้าเรียนต่อได้)
การสอบ IELTS มีทั้งหมด 4 ทักษะ
ประเภทการสอบ IELTS | จุดประสงค์การสอบ |
|---|---|
Academic | วัดทักษะทางภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ ใช้ในการยื่นเข้าศึกษาต่อ
|
General | วัดทักษะทางภาษาอังกฤษแบบทั่วไป ใช้ในการยื่นสมัครงาน |
IELTS for UKVI
| วัดทักษะทางภาษาอังกฤษเพื่อขอวีซ่ามายังสหราชอาณาจักร มีทั้งการสอบแบบทั่วไป (General) และการสอบเชิงวิชาการ (Academic) |
IELTS Life Skill
| วัดทักษะทางภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานมายังสหราชอาณาจักร
|
เลือกสอบ IELTS Academic แบบปกติหรือ IELTS for UKVI (Academic) ดี ? คลิก
IELTS สอบอะไรบ้าง
ข้อสอบ IELTS จะมีการแบ่งพาร์ทการสอบออกเป็น 4 พาร์ท ตามทักษะทางภาษาอังกฤษทั้ง 4 ทักษะ เรียงลำดับการสอบดังนี้ การฟัง (Listening) การอ่าน (Reading) การเขียน (Writing) และการพูด (Speaking) โดยใน 3 พาร์ทแรกจะต้องสอบติดต่อกันรวดเดียว ไม่มีกำหนดพักกลางคัน แต่สามารถเลือกสอบพูดในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน หรือสอบในวันอื่น ๆ (เลือกวันสอบได้ทั้งวันอาทิตย์และวันจันทร์) ของสัปดาห์เดียวกันได้
IELTS Listening (การฟัง)
ข้อสอบ IELTS สำหรับการวัดทักษะด้านการฟังจะมีคำถามทั้งหมด 40 ข้อ กำหนดเวลาการสอบทั้งหมด 30 นาที ลักษณะข้อสอบจะเป็นการฟังบทสนทนา บทพูด และการออกเสียง เน้นวัดทักษะด้านการฟังและจับใจความในสำเนียงการพูดที่หลากหลาย โดยจะเรียงลำดับข้อสอบจากง่ายไปยาก แต่จะสามารถฟังได้เพียงรอบเดียวเท่านั้น (ไม่เล่นซ้ำ) จึงต้องตั้งใจฟังเป็นอย่างดี ทั้งนี้ จะมีเวลาให้ผู้สอบสามารถตรวจทานความถูกต้องของคำตอบเป็นเวลา 10 นาทีในช่วงท้ายก่อนเริ่มสอบในพาร์ทถัดไป
อ่านเพิ่มเติม 10 เทคนิคเตรียมสอบ IELTS Listening คลิก
IELTS Reading (การอ่าน)
ข้อสอบ IELTS สำหรับการวัดทักษะด้านการอ่านจะมีคำถามทั้งหมด 40 ข้อ กำหนดเวลาการสอบทั้งหมด 60 นาที ลักษณะข้อสอบจะเป็นการอ่านบทความ (Passage) ทั้งหมด 3 เรื่องและตอบคำถามจากเรื่องที่อ่าน เน้นวัดทักษะด้านการอ่านจับใจความและการวิเคราะห์ข้อมูลจากการอ่าน โดยเนื้อหาบทความจะเป็นเรื่องทั่ว ๆ ไปที่ไม่ได้เจาะจงเป็นพิเศษ (สำหรับการสอบ IELTS Academic อาจเป็นการอ่านบทความที่มีเนื้อหาเชิงวิชาการ) และอาจมีแผนภาพ หรือกราฟประกอบบทความร่วมด้วย ลักษณะข้อคำถามจะมีทั้งการจับคู่, เลือกตอบ, เติมคำในช่องว่าง, การแสดงความเห็น และการระบุความถูกต้องของข้อมูล (True, False, Not Given)
IELTS Writing (การเขียน)
ข้อสอบ IELTS สำหรับการวัดทักษะด้านการเขียนจะแบ่งการสอบออกเป็น 2 ส่วน กำหนดเวลาการสอบทั้งหมด 60 นาที ลักษณะข้อสอบจะเป็นการเขียนอธิบายข้อมูลจากโจทย์ที่กำหนดให้ วัดทักษะด้านการใช้ไวยากรณ์อย่างถูกต้อง, ความสมบูรณ์ของเนื้อหา, การเชื่อมโยงของเนื้อหาและการเลือกใช้คำเชื่อม, การเลือกใช้คำศัพท์อย่างเหมาะสมและหลากหลาย ตลอดจนการใช้งาน Tense อย่างถูกต้อง โดยหากเลือกสอบเป็นในรูปแบบ IELTS Academic ผู้สอบจะได้รับหัวข้อในเชิงวิชาการ เช่น ผลสำรวจหรืองานวิจัย เป็นต้น
- ส่วนที่ 1 การเขียนอธิบายและเปรียบเทียบข้อมูลจากโจทย์ที่กำหนดให้อย่างน้อย 150 คำ โดยโจทย์จะเป็นในรูปแบบกราฟ, ตาราง หรือแผนผังต่าง ๆ
- ส่วนที่ 2 การเขียน Essay แสดงความคิดเห็น เสนอแนวทางการแก้ไข หรือวิจารณ์หัวข้อที่โจทย์กำหนดให้ โดยจะต้องเขียนขั้นต่ำที่ 250 คำ
อ่านเพิ่มเติม 10 เทคนิคพิชิตคะแนน IELTS Writing คลิก
IELTS Speaking (การพูด)
ข้อสอบ IELTS สำหรับวัดทักษะด้านการพูด จะแบ่งการสอบออกเป็น 3 ส่วน กำหนดเวลาการสอบ 11 – 14 นาที แบ่งเป็นส่วนละ 3 – 4 นาที ในแต่ละส่วน เน้นการวัดทักษะด้านการใช้งานไวยากรณ์อย่างถูกต้อง, การพูดอย่างคล่องแคล่วและลื่นไหล, การเลือกใช้คำศัพท์อย่างเหมาะสมและหลากหลาย ทั้งนี้ การสอบ Speaking จะไม่เน้นในเรื่องของสำเนียงการพูดแต่จะให้ความสำคัญกับการออกเสียงคำอย่างชัดเจนและถูกต้อง น้อง ๆ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสำเนียงแต่อย่างใด
- ส่วนที่ 1 แนะนำตัวและพูดคุยเรื่องทั่ว ๆ ไปในชีวิตประจำวัน
- ส่วนที่ 2 พูดในหัวข้อตามที่โจทย์กำหนดให้ โดยในส่วนนี้ผู้พูดจะมีเวลาการเตรียมตัวพูด 1 นาทีก่อนเริ่มสอบ
- ส่วนที่ 3 พูดคุยโต้ตอบแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อในส่วนที่สองกับกรรมการคุมสอบ
อ่านเพิ่มเติม เคล็ดลับเพิ่มคะแนนสอบ IELTS Speaking และ 10 หัวข้อน่ารู้ก่อนสอบ
การคิดคะแนน IELTS
คะแนนของการสอบ IELTS จะมีอายุ 2 ปีนับจากวันสอบ โดยจะมีการคิดคะแนนทั้งแบบแยกแต่ละทักษะและคิดคะแนนรวม (Overall) แบ่งคะแนนตามความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของผู้สอบออกเป็น 9 ระดับ (Band) ตั้งแต่ 1.0 – 9.0 บวกเพิ่มทีละ 0.5 คะแนน (คำนวณโดยการเศษปัดขึ้น) กำหนดความหมายคะแนนเอาไว้ ดังนี้
คะแนน | ความหมาย | ระดับการใช้งานภาษา |
|---|---|---|
Band 9 | Expert User | สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างเชี่ยวชาญและมีประสิทธิภาพสูง มีความคล่องแคล่วในการใช้งานภาษาอังกฤษระดับใกล้เคียงกับเจ้าของภาษา |
Band 8 | Very Good User | สามารถใช้ภาษาอังกฤษในระดับสูงได้อย่างคล่องแคล่วและมีประสิทธิภาพในสถานการณ์ที่มีความซับซ้อน แต่อาจมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยการใช้งานบางสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย |
Band 7 | Good User | สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพในสถานการณ์ที่ค่อนข้างซับซ้อน แต่อาจมีข้อผิดพลาดในการใช้งานบางสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย |
Band 6 | Competent User
| สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ในระดับค่อนข้างดี ทำความเข้าใจสถานการณ์โดยรวมได้ค่อนข้างชัดเจน แต่อาจมีความผิดพลาดในการใช้งานภาษาในบางสถานการณ์ที่มีความซับซ้อน |
Band 5
| Modest User | Modest user สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ในระดับพื้นฐาน สื่อสารในสถานการณ์ที่คุ้นเคยได้ดีและทำความเข้าใจสถานการณ์โดยรวมได้ในระดับหนึ่ง แต่มีข้อผิดพลาดในการใช้งานภาษาในสถานการณ์ที่ซับซ้อน |
Band 4 | Limited User | สามารถใช้งานภาษาอังกฤษได้ในระดับจำกัด สื่อสารได้ในสถานการณ์ที่คุ้นเคย แต่มีข้อผิดพลาดในการใช้งานภาษาในสถานการณ์อื่น ๆ ค่อนข้างมาก |
Band 3 | Extremely Limited User | สามารถใช้งานภาษาอังกฤษได้ในระดับจำกัดมาก ทำความเข้าใจและสื่อสารภาษาอังกฤษได้เฉพาะในสถานการณ์ที่คุ้นเคยเท่านั้น |
Band 2 | Intermittent User | สามารถใช้งานภาษาอังกฤษได้เล็กน้อยมาก ทำความเข้าใจและสื่อสารได้เพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในสถานการณ์ที่คุ้นเคยเท่านั้น |
Band 1 | Non-user | ไม่สามารถในการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารได้ สามารถใช้คำบางคำเพื่อสื่อสารได้เท่านั้น |
รูปแบบการสอบ IELTS
ข้อสอบ IELTS แบ่งการสอบออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ การสอบแบบกระดาษ (IELTS on Paper) และการสอบแบบออนไลน์ (IELTS on Computer) โดยจะต่างกันเฉพาะการทำข้อสอบในพาร์ท Listening, Reading และ Writing เท่านั้น ส่วนพาร์ท Speaking ผู้สอบจะเป็นแบบ Face-to-face เหมือนกันทั้ง 2 รูปแบบ
- การสอบแบบกระดาษ (IELTS on Paper) ผู้สอบจะต้องทำข้อสอบบนกระดาษที่ทางศูนย์สอบแจกให้ โดยสามารถขีดเขียนบนข้อสอบได้อย่างอิสระ โดยผู้สอบจะได้รับผลสอบภายใน 13 วันทำการ
- การสอบแบบออนไลน์ (IELTS on Computer) ผู้สอบจะต้องทำสอบบนคอมพิวเตอร์ที่ศูนย์สอบจัดไว้ โดยจะสามารถใช้ฟังก์ชันการไฮไลท์ข้อความหรือปรับขนาดตัวอักษรได้ และมีตัวช่วยการนับคำแบบอัตโนมัติในข้อสอบพาร์ท Writing อีกด้วย
น้อง ๆ คนไหนที่ยังลังเลว่าจะเลือกสอบแบบกระดาษหรือสอบแบบคอมพิวเตอร์ดีก็สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
วิธีการสมัครสอบ IELTS และอัตราค่าสมัครสอบ
- ไปที่เว็บไซต์ IDP
- เลือกประเภทการสอบและศูนย์สอบที่ต้องการ
- เลือกช่วงเวลาที่ต้องการเดินทางไปสอบ
- สร้าง Account โดยกรอกอีเมลและข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วน
- ชำระค่าสมัครสอบ
สำหรับอัตราค่าสมัครสอบ IELTS จะมีความแตกต่างออกไปตามประเภทของการสอบ โดยการสอบ IELTS แบบมาตรฐานทั้งรูปแบบ General และ Academic แบบกระดาษและออนไลน์จะอยู่ที่ 7,650 บาท แต่สำหรับการสอบ IELTS for UKVI ทั้งแบบกระดาษและออนไลน์ (General & Academic) จะอยู่ที่ 8,300 บาท ส่วน IELTS Life Skills จะมีอัตราค่าสมัครสอบ 6,500 บาท
ประเภทการสอบ | อัตราค่าสมัครสอบ (บาท) |
|---|---|
IELTS (Academic/ General) | 7,650 |
IELTS for UKVI (Academic/ General) | 8,300 |
IELTS Life Skill | 6,500 |
ทั้งนี้ การสอบ IELTS จะต้องสอบที่ศูนย์สอบเท่านั้น สำหรับในประเทศไทยจะมีหน่วยงานรับผิดชอบการสอบ IELTS ให้เลือกสมัครสอบอยู่ 2 แห่ง ได้แก่ IDP และ British Counsil ซึ่งแต่ละหน่วยงานก็จะมีศูนย์สอบและช่วงเวลาการเปิดสอบที่แตกต่างกันออกไป โดยน้อง ๆ สามารถเข้าไปดูช่วงเวลาการเปิดสอบและตรวจเช็คศูนย์สอบใกล้บ้านได้จากเว็บไซต์ของสถาบันได้โดยตรง
เตรียมพร้อมก่อนสอบ IELTS ไปกับ House of Griffin
หวังว่าน้อง ๆ คคงเข้าใจแล้ว่าการสอบ IELTS คืออะไร ส่วนน้องคนไหนที่สนใจลงคอร์สติวเข้มก่อน สอบ IELTS ให้ผ่านในครั้งเดียว ทาง House of Griffin มีคอร์สให้เลือกเรียนทั้งแบบ Group Class เรียนรวมกับเพื่อน ๆ ในห้องเรียน หรือหากอยากเรียนแบบตัวต่อตัวก็มีคอร์สแบบ Private Class ให้เรียนแบบติวเข้ม แต่หากอยากจัดคลาสเรียนร่วมกับเพื่อนกลุ่มเล็ก ๆ ก็ยังมี Semi-private Class ให้เลือกเรียนได้อย่างหลากหลาย แม้ยังไม่เก่งภาษาอังกฤษก็สามารถเตรียมสอบได้หากมีการเตรียมตัวที่ดี นอกจากนี้ สถาบันของเรายังได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทน IDP Education ในการรับสมัครการทดสอบ IELTS อย่างเป็นทางการ จึงมั่นใจได้เลยว่าการติวสอบ IELTS กับ House of Griffin จะได้รับความรู้แบบเน้น ๆ พร้อมบริการช่วยเหลือน้อง ๆ ตั้งแต่การสมัครสอบไปจนถึงการติดตามผลสอบอย่างครบถ้วนแน่นอน