
เราจะต้องตอบโจทย์ GED Math ให้ได้กี่ข้อกันนะ ถึงจะสอบผ่านแบบชัวร์
โจทย์ GED Math หรือ Mathematical Reasoning เป็นข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์ หนึ่งในสี่วิชาหลักของการสอบ GED หรือการสอบเทียบวุฒิ ม.ปลาย ระบบอเมริกัน ซึ่งประกอบด้วยวิชาภาษาอังกฤษ (Reasoning Through Language Arts: RLA) วิชาสังคมศึกษา (Social Studies) วิชาวิทยาศาสตร์ (Science) และวิชาคณิตศาสตร์ (Mathematical Reasoning) นั่นเอง ด้วยความที่วิชาคณิตศาสตร์อาจจะยากสำหรับบางคน ก็เลยมีน้อง ๆ สงสัยว่า จะต้องตอบคำถามให้ได้อย่างน้อยกี่ข้อกันนะ ถึงจะสอบผ่าน ก่อนอื่นเลย พี่กริฟฟินขอพาพวกเรามาทำความรู้จักโครงสร้างข้อสอบ The GED® Mathematical Reasoning Test กันก่อนดีกว่า
GED Math เป็นข้อสอบที่ให้เวลา 115 นาที รวมเวลาที่กรรมการให้คำแนะนำในการทำข้อสอบ 2 นาที และเวลาพักอีก 3 นาที จะเหลือเวลาที่ต้องใช้ทำข้อสอบจริง ๆ เพียว ๆ ทั้งหมด 110 นาที ในการตอบคำถามประมาณ 40 ถึง 45 ข้อ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกที่ไม่สามารถใช้เครื่องคิดเลขได้ น้อง ๆ ต้องคิดด้วยฝีมือตนเองล้วน ๆ และส่วนหลังที่สามารถใช้เครื่องคิดเลข TI-30XS เพื่อช่วยในการคำนวณได้ อย่าลืมฝึกกดเครื่องคิดเลข ใช้ให้เป็นใช้ให้คล่อง กันด้วยนะ
อีกตัวช่วยหนึ่งในการทำข้อสอบ GED Math ก็คือ ในระบบจะมี Formula Sheet เป็นสรุปสูตรให้ไว้ช่วยในกรณีที่ไม่มั่นใจเวลาใช้สูตร น้อง ๆ ไม่ต้องท่องจำสูตร แต่ต้องเข้าใจและใช้ให้เป็น
หากน้อง ๆ อยากจะสอบผ่านแบบสบาย ๆ พี่กริฟฟินขอแนะนำให้พยายามขยันฝึกซ้อมทำโจทย์แบบฝึกหัดที่พี่ให้แนวโจทย์ GED Math ไว้ โดยในการสอบแต่ละครั้ง ถ้าหากรอบสอบนั้นมีคำถามน้อยและยาก มีคนทำได้น้อย น้อง ๆ ต้องตอบคำถามให้ถูกต้องอย่างน้อย 30 ข้อขึ้นไป แต่ถ้าหากรอบสอบนั้น มีจำนวนข้อเยอะและง่าย มีคนทำได้เยอะ น้อง ๆ ก็ควรจะต้องตอบให้ถูกเพิ่มขึ้นหน่อยสัก 32 ข้อขึ้นไป
โจทย์ GED Math ที่ต้องแก้ไขโดยไม่ต้องใช้เครื่องคิดเลข มักออกสอบครอบคลุมหัวข้อเหล่านี้
- Fractions and Decimals
- LCM (least common multiple)
- GCF (Greatest Common Factor)
- Distributive Property
- Exponents and Rational exponents
- Absolute value of rational numbers
- Addition, Subtraction, Division and
- Multiplication on rational numbers
- Numerical expressions with cubes and cube roots
- Numerical expressions with squares and square roots
- Determine when numerical expressions are undefined
โจทย์ GED Math ในส่วนที่สามารถใช้เครื่องคิดเลขช่วยคิดได้ จะแบ่งออกเป็น 4 หัวข้อเรื่องหลัก
ซึ่งมีสัดส่วนโดยประมาณ ดังนี้
1. Basic Math 25 %
2. Basic Algebra 30 %
3. Graphs and Functions 25 %
4. Geometry 20 %
ซึ่งแต่ละคำถามจะมีวิธีการตอบแตกต่างออกไป เช่น
- Multiple choice คลิกเลือกตัวเลือกที่เหมาะสม
- Drag and drop ลากตัวเลือกที่เหมาะสมมาวาง
- Fill-in-the-blank เติมค่าที่ถูกต้องเหมาะสม
- Hot spot / Select an area คลิกเลือกบริเวณที่เหมาะสม
- Drop down คลิกลูกศรลงแล้วจะมีช่องลงมา ให้เลือกพิจารณาคลิกเลือกช่องที่เหมาะสม
เรื่องการแบ่งเวลาในการศึกษาแต่ละหัวข้อก็สำคัญและเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่พี่กริฟฟินคิดว่าจะทำให้น้อง ๆ อ่านหนังสือทันและทำข้อสอบได้ โดยน้อง ๆ ควรเรียงลำดับความสำคัญในการศึกษาแต่ละเรื่องให้ดี เพื่อลำดับความเข้าใจและจัดระบบความคิดของน้อง ๆ ให้เหมาะสม ซึ่งในส่วนนี้พี่ ๆ จะแนะนำน้องเอง
นอกจากนี้พี่กริฟฟินก็มีเทคนิคในการทำข้อสอบมาแนะนำ เพราะน้อง ๆ ที่ทำข้อสอบได้คะแนนดี มักฝึกเทคนิคและความเข้าใจในการทำข้อสอบแนวของ GED Math มาเป็นอย่างดี เพราะข้อสอบจะเป็นโจทย์พื้นฐานที่มักพบเจอในชีวิตประจำวัน ซึ่งโจทย์แต่ละข้อจะมีเทคนิคในการแก้ไขปัญหานั้น ๆ ด้วยวิธีที่แตกต่างกันออกไป โดยพิจารณาข้อมูลที่โจทย์ให้มา แล้วใช้กระบวนการคำนวณด้วยวิธีต่าง ๆ ในการแก้โจทย์ เช่น
- การข้ามข้อยากไปก่อนแล้วค่อยกลับมาทำหากมีเวลา เพื่อเก็บคะแนนข้อง่ายให้ได้แน่ ๆ ก่อน
- การเลือกข้อมูลที่สำคัญมาวิเคราะห์ เนื่องจากบางครั้งข้อสอบให้ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการหาคำตอบมาด้วย
- การมีสติรู้ตัว ไม่ติดอยู่กับบางข้อนานเกินไป เพราะอาจทำให้เสียโอกาสเก็บคะแนนข้อง่าย
- หากไม่มั่นใจก็ควรดู formula sheet ที่ให้มา
- การตัดตัวเลือกที่ไม่ถูกต้องออก เพื่อช่วยวิเคราะห์หาคำตอบที่ถูกต้อง
- การแทนค่าตัวเลขจากตัวเลือกที่โจทย์ให้ หรือ สุ่มตัวเลขขึ้นมาตรวจสอบ
ซึ่งวิธีการเหล่านี้เป็นเทคนิคที่ใช้ทำโจทย์แนวเฉพาะข้อสอบ GED Mathematical Reasoning และจำเป็นต้องฝึกให้ดีและเตรียมพร้อมให้ใช้ได้อย่างคล่องแคล่วก่อนสอบ แล้วมาฝึกทำโจทย์กันนะครับ
ลองฝึกทำแนวข้อสอบ GED ทุกวิชา คลิกที่นี่