
ก่อนที่น้อง ๆ จะไปสอบ GED Math มาเช็กความพร้อมกันหน่อยว่าเตรียมตัวมาดีแค่ไหน 10 checklists เตรียมความพร้อมก่อนสอบมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย
1. เครื่องคิดเลข
เครื่องคิดเลขในการสอบ GED Math นั้นคือยี่ห้อ Texas Instrument รุ่น TI-30xs ซึ่งจะมาพร้อมกับตัวข้อสอบเลย (เครื่องคิดเลขติดตั้งอยู่ในคอมพิวเตอร์ให้เรียบร้อย) โดยจะมีหน้าตาแบบนี้ !
ในช่วงเตรียมตัวสอบ น้อง ๆ สามารถ Download เจ้าเครื่องคิดเลขรุ่นนี้มาลองใช้ดูได้ โดยมี Trial version ให้ลองใช้ 90 วัน หรือถ้าใครไม่หนำใจจะซื้อมาติดตัวไว้เลยก็ไม่เสียหายครับ โดยส่วนมากก็จะเป็นการ บวก ลบ คูณ หารตัวเลขทั่ว ๆ ไป แต่อาจจะต้องใช้ Function พิเศษ บ้าง เช่น การยกกำลัง การถอด Square root หรือ การคำนวณในเรื่อง Permutation และ Combination เป็นต้นครับ

2. จำนวน Section และข้อสอบ GED Math
ข้อสอบ GED Math แบ่งออกเป็น 2 Sections ได้แก่ Non Calculator Part จำนวน 5 ข้อ และ Calculator Part อีกจำนวน 35-40 ข้อ โดยเวลาใช้ในการสอบทั้งหมด 115 นาที แบ่งออกเป็นส่วนที่ไม่สามารถใช้เครื่องคิดเลขได้ให้เวลาในการสอบ 10 นาที และส่วนที่สามารถใช้เครื่องคิดเลขได้อีก 105 นาที โดยที่เมื่อทำส่วนแรกเสร็จแล้วจะไม่สามารถกลับไปทำหรือแก้ไขได้อีก
3. Formula Sheet
ในการสอบ GED Math นั้น น้อง ๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องจำสูตรใด ๆ ครับเพราะสูตรที่จำเป็นต่อการสอบจะอยู่ใน Formula sheet ซึ่งให้มาพร้อมกับตัวโปรแกรมของข้อสอบเรียบร้อย น้อง ๆ สามารถกดปุ่มที่อยู่ทางบริเวณมุมซ้ายบนของข้อสอบเพื่อเรียกตัว Formula sheet ออกมาดูได้เลยครับ
4. ความยากของข้อสอบ GED Math
ความยากของข้อสอบอาจไม่ได้มาจากการคิดคำนวณเพียงอย่างเดียว แต่อาจมาจากการที่น้อง ๆ ต้องเจอกับข้อมูลจำนวนมากที่มาในรูปแบบของกราฟ ตาราง หรือตัวหนังสือมากมายหลายย่อหน้า เพราะฉะนั้นการท่องคำศัพท์ที่อาจจะได้เจอในข้อสอบไว้ก่อนก็ช่วยได้พอสมควร สำหรับน้อง ๆ ที่อาจจะไม่คุ้นเคยกับคำศัพท์ทางคณิตศาสตร์ที่เป็นภาษาอังกฤษครับ และนี่คือตัวอย่างคำศัพท์ที่ควรทราบครับ
Vocabulary | คำแปล |
---|---|
Coefficient | ค่าสัมประสิทธิ์ : ตัวเลขที่อยู่หน้าตัวแปร |
Combination | การจัดกลุ่ม : มีสิ่งของจำนวนหนึ่งแล้วเลือกออกมาโดยไม่สนใจลำดับก่อนหลัง |
Diameter | เส้นผ่านศูนย์กลาง |
Estimate | การประมาณค่า |
Function | ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร |
Integer | จำนวนเต็ม |
Origin | จุดตัดระหว่างแกน x และแกน y |
5. การฝึกทำ Practice Test
เนื่องจากการสอบ GED นั้น หากสอบไม่ผ่านครบ 3 รอบก็จะติด Blacklist คือไม่สามารถลงสอบได้เป็นเวลา 2 เดือน ซึ่งนั่นทำให้เราควรที่จะสอบผ่านให้ได้ภายใน 3 รอบนี้เลย การเตรียมตัวให้พร้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ซึ่งนอกเหนือจากการทำความเข้าใจเนื้อหาทั้งหมดแล้ว การฝึกทำข้อสอบตามเวลาที่กำหนดก็เป็นสิ่งที่จำเป็นไม่แพ้กัน เพื่อให้น้อง ๆ ได้ทำความคุ้นเคยกับความรู้สึกเวลาสอบ Practice Test จะช่วยประเมินคะแนนเบื้องต้นของน้อง ๆ ได้อีกด้วย โดยน้อง ๆ ควรทำได้ประมาณ 70% ของ Practice Test นั้น เพื่อรับประกันว่าเมื่อเข้าสู่ห้องสอบที่น้อง ๆ ต้องเจอกับความตื่นเต้นและบรรยากาศที่ไม่คุ้นเคย น้อง ๆ จะสามารถสอบผ่านโดยได้คะแนนอย่างน้อยอยู่ที่ประมาณ 155-160 คะแนนได้ครับ
6. หัวข้อที่ออกสอบ GED Math
หัวข้อที่ออกสอบมี 4 หัวข้อใหญ่ ๆ ดังนี้
Rational Number
หัวข้อนี้จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติและ Operation ทั่วไปของตัวเลข เช่น เลขยกกำลัง, การบวกลบคูณหาร, อัตราส่วน และการหา G.C.F และ L.C.M.
Expression and Equation
เมื่อเป็นข้อสอบ Math ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอกับการแก้สมการและอสมการ โดยในหัวข้อนี้จะประกอบด้วยการแก้สมการ อสมการ ระบบสมการ สมการกำลังสอง รวมถึงโจทย์ปัญหาของแต่ละหัวข้อด้วย
Graph and Function
เริ่มกันตั้งแต่จุดต่อกันไปเป็นเส้นตรง ไปจนถึงสามารถสร้าง Linear Equation เพื่ออธิบายเรื่องราวหรือข่อมูลที่โจทย์ให้มาได้ รวมไปถึงยังมีเรื่องของ Function ที่น้อง ๆ หลายคนอาจไม่เคยรู้จักมาก่อนด้วย
Shapes and Measurement
ถือเป็นหัวข้อง่ายสำหรับข้อสอบ Math เลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นหัวข้อที่ไม่เน้นมากนัก ด้วยจำนวนข้อสอบที่ออกน้อยประมาณ 4-5 ข้อและแนวโจทย์ที่ไม่ยากมากนัก เพียงแค่น้อง ๆ สามารถเลือกสูตรจาก Formula sheet มาใช้ได้ถูกก็สามารถหาคำตอบที่ถูกต้องได้แล้วครับ
7. GED Ready
หากน้อง ๆ ต้องการประเมินคะแนนที่ตนเองจะได้จากการสอบ GED Ready ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก เพราะเมื่อน้อง ๆ สอบเสร็จจะมีการประเมินคะแนนที่ได้ รวมถึงวิเคราะห์หัวข้อและแนวโจทย์ที่ควรเสริมเพิ่มเติมมาให้อีกด้วย แต่ GED Ready จะไม่ใช่ข้อสอบจริงนะครับ เป็นเพียงแนวให้น้อง ๆ ได้ลองเจอกับระดับความยากของข้อสอบจริงเท่านั้น โดยการสอบแต่ละครั้งจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ $6 ต่อวิชา
8. แนวโจทย์ที่ออกบ่อย (1)
The equation of a line is given by y=mx+b
Which of the following equations is graphed below?
y=23x+2
y=35x+2
y=-23x+2
y=-35x+2
ข้อนี้โจทย์ให้กราฟแล้วถามว่าข้อใดคือ Equation ของกราฟนี้ เพียงแค่หา Slope และ y-intercept ได้ก็จะสามารถได้คำตอบที่ถูกต้องได้แล้วครับ แต่ข้อนี้มีตัวช่วยในการตัด Choice มาแนะนำเล็กน้อย ด้วยกราฟที่โจทย์ให้มาถ้ามองจากซ้ายไปขวาเส้นจะต่ำลงไปเรื่อย ๆ นั่นแสดงถึง Slope ของเส้นตรงนี้เป็นลบครับ ทำให้เหลือตัวเลือกที่ตอบได้เพียงสองตัวเลือกนั่นคือ C) และ D) และเมื่อหา Slope ของเส้นตรงนี้ออกมาก็จะได้คำตอบเป็นข้อ C) ครับ ข้อนี้ถ้าน้อง ๆ ทำได้จนชำนาญ ใช้เวลาไม่ถึง 15 วินาทีก็จะได้คำตอบแล้วครับ เอาเวลาไปทำข้ออื่นต่อได้สบาย ๆ
9. แนวโจทย์ที่ออกบ่อย (2)
เป็นแนวโจทย์ที่ดูเหมือนจะยาก แต่แท้ที่จริงแล้ว ไม่มีอะไรยากเลยครับ เพียงแค่ต้องเข้าใจคำว่า Function เท่านั้น ซึ่ง Function คือรูปแบบหนึ่งของความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรสองตัว ซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือค่า x หนึ่งตัวจะสามารถคู่กับ y ได้แค่หนึ่งตัวเท่านั้น ซึ่งข้อที่ผิดหลักกรของ Function ในโจทย์ข้อนี้ นั่นก็คือข้อ C) เนื่องจากค่า x ที่เท่า 4 จับคู่กับ y ถึงสองตัวนั่นคือ 3 และ 7 นั่นเอง
10. แนวโจทย์ที่ออกบ่อย (3)
For fx=25x+45, find f(-7).
เป็นแนวโจทย์ขาประจำ Part ที่ห้ามใช้เครื่องคิดเลขเลยครับ สำหรับการหาค่า Function โดยหลักการก็ง่ายแสนง่ายนั่นก็คือ “เมื่อ x ในวงเล็บเปลี่ยนไปเป็นอะไร x ตัวที่อยู่ด้านหลังในสมการก็เปลี่ยนไปเป็นตัวนั้นด้วย” จากนั้นก็คิดเลขหาคำตอบ ซึ่งข้อนี้จะได้เป็น
พอน้อง ๆ เช็ก 10 หัวข้อก่อนสอบ GED Math เรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเช็กตัวเองด้วยเช่นกันว่าน้อง ๆ พร้อมจะลงสนามสอบแล้วหรือไม่ อย่างที่ทราบ เราต้องทำคะแนนให้ได้อย่างน้อย 145 คะแนนต่อวิชา โดยเรามีโอกาสสอบ 3 ครั้ง ถ้ายังสอบไม่ถึงเกณฑ์ เราต้องรออีก 60 วันถึงจะมีสิทธิ์สมัครสอบอีกต่อไป ถ้าเราไม่อยากเสียเวลา ต้องเตรียมตัวเป็นอย่างดี ถ้าอยากให้พี่กริฟฟินช่วย ก็ติดต่อมาได้เลยนะครับ
อ่านบทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง