Skip to content

คู่มือเตรียมเข้ามหาวิทยาลัยด้วยวุฒิ GED อัปเดตล่าสุด

เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินคำว่า “วุฒิ GED” หรือการสอบเทียบวุฒิ GED เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยผ่านหูกันมาบ้าง โดยเฉพาะน้อง ๆ ที่เรียนในโรงเรียนนานาชาติหรือหลักสูตรอินเตอร์ หรือบางคนอาจเคยเห็นในประกาศรับสมัคร Admission ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ แต่สำหรับใครที่ยังไม่คุ้นเคยและต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม ทาง House of Griffin ขอรวบรวมขั้นตอนตั้งแต่เริ่มทำความรู้จักกับการสอบ GED จนถึงสอบผ่านใช้วุฒิ GED ยื่นเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้สำเร็จ 

7 ขั้นตอนเตรียมความพร้อมคว้าวุฒิ GED เข้าเรียนระดับมหาลัยฯ

ผู้ปกครองหรือนักเรียนที่มีความสนใจเกี่ยวกับการสอบเทียบ ม.ปลาย ด้วยวุฒิ GED ที่ได้รับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการในประเทศไทยและได้รับการยอมรับทั่วโลก สามารถทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ

1. ทำความรู้จักการสอบ GED กันก่อน

General Educational Development หรือ GED คือ การสอบเพื่อเทียบวุฒิการศึกษาในระดับ High School ของสหรัฐอเมริกาที่ทาง ACE (American Counsil on Education) ให้การยอมรับอย่างเป็นทางการ โดยคะแนน GED จะสามารถนำเอาไปใช้เพื่อยื่นเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในสหรัฐอเมริกาและมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย โดยทางกระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทยรับรองให้วุฒิ GED นั้นเทียบเท่ากับวุฒิม. 6 รวมทั้งมหาวิทยาลัยบางแห่งในไทยเองก็เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีวุฒิ GED สามารถยื่นคะแนนเข้าเรียนในระดับปริญญาตรีได้เช่นกัน การสอบ GED นั้นจะมีเปิดสอบตลอดทั้งปี โดยนักเรียนสามารถเริ่มสอบ GED ได้ตั้งแต่อายุ 16 ปีบริบูรณ์ 

2. ตรวจสอบก่อนว่าวุฒิ GED สามารถใช้ยื่นสมัครคณะและมหาลัยฯ ที่เราต้องการหรือไม่

วุฒิ GED สามารถนำไปยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้ทั่วโลก โดยน้อง ๆ สามารถตรวจสอบรายชื่อมหาวิทยาลัยที่เปิดรับวุฒิ GED ได้ที่เว็บไซต์ของ GED โดยตรง (สามารถกรอกชื่อประเทศหรือมหาวิทยาลัยที่สนใจศึกษาต่อในช่องค้นหาได้เลย) สำหรับในประเทศไทยก็มีมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่เปิดรับวุฒิ GED ทั้งหลักสูตรทั่วไปและหลักสูตรนานาชาติ โดยน้องๆ สามารถตรวจสอบรายชื่อคณะวิชาและสาขาที่เปิดรับวุฒิ GED ได้ในเว็บไซต์ TCAS โดยส่วนใหญ่ทางมหาวิทยาลัยของรัฐบาลจะเปิดรับวุฒิ GED ในรอบ 1 (Portfolio) และรอบ 2 (Quota) เป็นหลัก ทั้งนี้ คณะวิชาของแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีการกำหนดเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำการรับสมัครที่แตกต่างกันออกไป สามารถตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยนั้น ๆ โดยตรงได้เลยค่ะ 

3. เตรียมตัวสอบ GED อย่างเต็มที่

เมื่อเราตรวจสอบข้อมูลเรื่องคณะ มหาวิทยาลัย รวมถึงคะแนนที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเตรียมตัวสอบ GED ค่ะ เนื่องจากวุฒิ GED มีต้นกำเนิดมาจากสหรัฐอเมริกา ดังนั้น ตัวข้อสอบจึงจะเป็นภาษาอังกฤษล้วนทั้งในรูปแบบปรนัย (เลือกตอบ) และอัตนัย (เขียนตอบ) โดยจะมีรายวิชาการสอบทั้งหมด 4 วิชา ได้แก่ 

  1. Reasoning Through Language Arts (RLA) 
  2. Mathematical Reasoning 
  3. Science 
  4. Social Studies 

น้อง ๆ สามารถคลิกอ่านข้อมูลเพิ่มในแต่ละรายวิชาด้านบน รวมถึงลองฝึกทำข้อสอบ GED ครบทุกวิชา เพื่อทดสอบตัวเองเบื้องต้นก่อนก็ได้ค่ะ หลังจากประเมินตัวเองแล้ว หากน้อง ๆ คนไหนต้องการติว GED เพิ่มเติม ทาง House of Griffin มีคอร์สติวสอบ GED 4 วิชา ที่การันตีสอบผ่านใน 2 เดือน ช่วยร่นระยะเวลาเรียนม.ปลายจาก 3 ปีเหลือเพียงแค่ 2 เดือน พร้อมลงสนามสอบคว้าวุฒิเทียบเท่าม.ปลาย ระบบอเมริกัน น้อง ๆ จะได้เรียนกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละวิชา ที่จะช่วยประหยัดเวลาในการเตรียมตัวสอบ เน้นเฉพาะเนื้อหาที่สำคัญ ฝึกทำข้อสอบเก่าจนคุ้นมือ หลักสูตรคุณภาพเข้มข้นที่ช่วยให้น้อง ๆ สามารถคว้าวุฒิ GED ยื่นเรียนต่อระดับมหาลัยฯ ได้ตามเป้าหมาย

4. อย่าคิดว่าพร้อมถ้ายังไม่ได้สอบ GED Ready

หลังจากเตรียมตัวสอบ GED จนมั่นใจ ขั้นตอนต่อไปน้อง ๆ จะต้องลง สมัครสอบ GED Ready หรือข้อสอบเสมือนจริงของ GED ให้ผ่านเกณฑ์จึงสามารถสมัครสอบ GED ต่อไปได้ โดยความยากของข้อสอบ GED Ready จะมีความใกล้เคียงกับการสอบจริง แต่จำนวนข้อสอบและระยะเวลาการสอบ GED Ready จะเป็นครึ่งหนึ่งของข้อสอบจริง (วิชาละประมาณ 30 – 50 คำถาม) มีคะแนนเต็มรายวิชาละ 200 คะแนน ซึ่งผู้สอบจะต้องทำคะแนนให้ได้ 155 คะแนนขึ้นไปต่อรายวิชา จึงจะถือว่าผ่านเกณฑ์และสามารถสมัครสอบ GED ในสนามจริงต่อไปได้

5. ถึงเวลาลงสนามสอบ GED ของจริง

เมื่อสอบ GED Ready ผ่านเป็นที่เรียบร้อย น้อง ๆ สามารถสมัครสอบ GED สนามจริงได้เลย (เปิดสอบวันจันทร์ – เสาร์ ตั้งแต่ช่วงเวลา 9:00 – 16:00 น.) โดยลงทะเบียนสอบในเว็บไซต์แล้วเลือกศูนย์สอบใกล้บ้านเพื่อเดินทางไปสอบตามวันเวลาที่สะดวกได้เลย สำหรับอัตราค่าสมัครสอบ GED จะอยู่ที่รายวิชาละ $80 (หรือราว 2,800 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราค่าเงินในช่วงที่สมัครสอบ) แต่สำหรับน้อง ๆ ที่ติวสอบ GED กับทาง House of Griffin ทางสถาบันจะเป็นผู้ดำเนินการลงทะเบียน สร้างบัญชี สมัครสอบไปจนถึงติดตามผลคะแนนให้นักเรียนทุกขั้นตอน

สิ่งที่ต้องรู้

  1. หลังจากรู้ผลสอบ GED แล้ว หากสอบไม่ผ่าน สามารถเลือกสมัครสอบใหม่ได้ติดต่อกันถึง 3 ครั้งในรายวิชาเดียวกัน แต่หากสอบไม่ผ่านครั้งที่ 4 จะต้องเว้นระยะการสอบไปอีก 60 วัน จึงจะสามารถลงทะเบียนสอบใหม่ได้
  2. ข้อสอบทั้ง 4 รายวิชาจะมีคะแนนเต็มวิชาละ 200 คะแนน โดยเกณฑ์ขั้นต่ำของการสอบผ่านจะอยู่ที่ 145 คะแนน / วิชา แต่อาจมีมหาวิทยาลัยบางแห่งกำหนดคะแนนยื่นเข้าสมัครเรียนอยู่ที่ 165 คะแนนขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ของทางมหาวิทยาลัยนั้น ๆ) ดังนั้น แนะนำให้ตรวจสอบเกณฑ์การรับสมัครก่อนยื่นคะแนนทุกครั้ง)

6. ขอเอกสารเทียบวุฒิ GED ในระบบ

เมื่อเราสอบ GED ผ่านทั้ง 4 วิชาเรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้ใบ Transcript และใบ Diploma สำหรับผู้ที่ต้องการใช้วุฒิ GED ยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยภายในประเทศไทย จะต้องทำการเทียบวุฒิ GED ในระบบการศึกษาได้ที่เว็บไซต์ https://hsces.atc.chula.ac.th/ ซึ่งสามารถส่งคำขอเอกสารได้ดังนี้

  • High School Equivalence Certificate
  • Provisional Equivalence Certificate
  • GPAX Equivalence Certificate

7. ยื่นวุฒิ GED เข้าระบบ TCAS ตามรอบ Admission และรอผล

เมื่อได้รับเอกสารเทียบวุฒิ GED เป็นที่เรียบร้อย น้อง ๆ สามารถใช้เอกสารเทียบวุฒิ GED ที่ได้รับการรับรองไปยื่นสมัครสอบในระบบ TCAS พร้อมกับเอกสารหรือคะแนนอื่น ๆ ที่ทางคณะต้องการ เพื่อเลือกคณะวิชาที่ต้องการสมัครเรียนในระดับปริญญาตรีตามกำหนดการของปฏิทิน TCAS จากนั้นรอผลประกาศผลและดำเนินการขั้นต่อไป

สนใจสอบเทียบวุฒิ GED เพื่อเรียนต่อมหาวิทยาลัย เริ่มต้นได้ที่ House of Griffin

น้อง ๆ คนไหนที่สนใจสอบเทียบวุฒิ GED แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง สถาบัน House of Griffin ก็มีคอร์สติวสอบ GED ที่เน้นเนื้อหาทั้ง 4 วิชาอย่างครบถ้วน ที่สำคัญเราการันตีสอบผ่าน 100% ภายใน 2 เดือน ตามเงื่อนไขที่ทางสถาบันกำหนด สามารถเข้ามาปรึกษาวางแผนการเรียนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายนะคะ

House of Griffin เป็นสถาบันอันดับ 1 ติวสอบ GED มากว่า 13 ปี ได้รับการรับรองจาก GED Official สหรัฐอเมริกาโดยตรงให้เป็น Authorized GED Test Prep Provider เพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย พิสูจน์ด้วยผลงานส่งนักเรียนเข้าเรียนต่อระดับมหาลัยฯ ทั้งในไทยและต่างประเทศด้วยวุฒิ GED มาแล้วกว่า 5,000 คน สอนโดยคุณครูมากประสบการณ์ที่พร้อมบอกเคล็ดลับ ช่วยดูแลนักเรียนรายบุคคล มั่นใจในคุณภาพ 

 
Share this article