
GED คือ อะไร?
General Educational Development หรือที่เรียกกันแบบย่อว่า GED คือ การสอบเทียบวุฒิการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของระบบอเมริกัน (US High School Equivalency Diploma) มีที่มาจาก American Council on Education (ACE) กรุงวอชิงตัน ดีซี โดยในปัจจุบันถือว่าเป็นวุฒิการศึกษาที่ได้รับการยอมรับจากสถาบันการศึกษาและรัฐบาลจากทั่วโลก รวมถึงทางรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทยเองก็ให้การรับรองว่าเป็นวุฒิการศึกษาระดับเทียบเท่ามัธยมศึกษาปีที่ 6 (วุฒิม.ปลาย) จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับน้อง ๆ สามารถใช้วุฒิ GED เพื่อยื่นเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งในไทยและต่างประเทศ
การสอบเทียบวุฒิ GED เหมาะกับใคร
GED คือ วุฒิการศึกษาที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปทุกคนสามารถสอบเทียบเพื่อรับวุฒิการศึกษาได้ (ทั้งนี้ ผู้เข้าสอบที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องแนบเอกสารยินยอมจากผู้ปกครองควบคู่ไปกับการสมัครสอบ) เหมาะกับนักเรียนที่ไม่ได้เรียนในระบบปกติ ซึ่งพบได้บ่อยในกรณีที่เรียน Home School, เน็ตไอดอล, นักกีฬา, ดารา, นักแสดง, นักร้อง รวมไปถึงน้อง ๆ ต้องการประหยัดเวลาในการเรียนมัธยมปลาย เพื่อนำเวลาไปทำกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อค้นหาตนเองมากขึ้น หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ที่ต้องการเก็บวุฒิม.ปลาย ก็สามารถสอบ GED ได้เช่นกัน เนื่องจากการสอบเทียบวุฒิ GED ไม่จำกัดเพดานอายุสูงสุด ซึ่งมีคนดังมากมายในหลากหลายวงการตัดสินใจเลือกสอบเทียบวุฒิ GED โดยน้อง ๆ สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่
GED สอบอะไรบ้าง ?
การสอบ GED จะมีรายวิชาการสอบทั้งหมด 4 วิชา ได้แก่
- ภาษาอังกฤษ (Reasoning Through Language Arts),
- คณิตศาสตร์ (Mathematical Reasoning),
- วิทยาศาสตร์ (Science)
- สังคมศึกษา (Social Studies)
ทุกวิชาสอบเป็นภาษาอังกฤษ โดยแต่ละรายวิชาจะมีคะแนนเต็มวิชาละ 200 คะแนน โดยน้อง ๆ จะต้องสอบให้ได้คะแนนขั้นต่ำที่ 145 คะแนน จึงจะถือว่าสอบผ่านในรายวิชานั้น ๆ ทั้งนี้ การสอบ GED จะเป็นการสอบที่ทราบผลสอบได้ทันที หากสอบไม่ผ่าน สามารถสอบซ้ำได้ถึง 3 ครั้ง แต่หากสอบไม่ผ่านครั้งที่ 4 จะต้องเว้นระยะไป 30 วันก่อนสมัครสอบอีกครั้งหนึ่ง โดยส่วนใหญ่แล้วข้อสอบ GED จะเน้นการคิดวิเคราะห์ และการนำมาประยุกต์ใช้งานจริงมากกว่าท่องจำหรือการแก้โจทย์
Reasoning Through Language Arts หรือ RLA
ข้อสอบภาษาอังกฤษด้าน Reading และ Writing วัดทักษะด้านการอ่านจับใจความ การใช้เหตุผล และการใช้งานไวยากรณ์พื้นฐาน กำหนดเวลาการสอบ 150 นาที ลักษณะข้อสอบจะมีเนื้อหาการสอบทั้งหมด 3 รูปแบบ ดังนี้
- Reading for Meaning
- Grammar and Language
- Identifying and Creating Arguments
ข้อสอบ RLA จะมีทั้งเลือกตอบ ลากคำตอบ เติมคำลงในช่องว่าง และการเขียน Essay ซึ่งจะเรียกว่า Extended Response โจทย์จะให้ Argumentative Passage มา 2 เรื่องที่มีความคิดเห็นตรงกันข้ามกัน น้อง ๆ จะต้องทำการสรุปความเห็นโดยยกเหตุผลจาก Passage มาประกอบการอธิบายควบคู่กันไป
สำหรับใครที่อยากเตรียมความพร้อมก่อนสอบก็ลองเข้ามาดู 5 เทคนิคพิชิตข้อสอบ RLA และ ตัวอย่างข้อสอบ RLA กันเลย
Mathematical Reasoning
ข้อสอบในรายวิชาคณิตศาสตร์จะกำหนดเวลาการสอบ 115 นาที วัดทักษะด้านการใช้งานตรรกะและการคิดคำนวณ โดยจะมีการแบ่งข้อสอบออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องคิดเลขในการคิดคำนวณ และส่วนที่อนุญาตให้ใช้งานเครื่องคิดเลขได้ แบ่งเนื้อหาการสอบออกเป็น 4 หัวข้อหลัก ๆ ได้แก่
- Basic Math
- Geometry
- Basic Algebra
- Graphs and Functions
ข้อสอบ GED Math จะมีทั้งเลือกตอบ ลากตอบ หรือเติมคำตอบลงในช่องว่าง โดยในส่วนที่ไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องคิดเลขจะเน้นไปที่การเลือกใช้สูตรและการคิดเลขให้สอดคล้องกับโจทย์ที่กำหนด ส่วนในข้อที่ใช้งานเครื่องคิดเลขได้จะเน้นไปที่และการแก้ปัญหาทางพีชคณิต
ทั้งนี้ ทาง House of Griffin ก็ได้นำเอา 4 เทคนิคพิชิต GED Math, 10 Checklist ก่อนสอบ GED Math และ ตัวอย่างข้อสอบ GED Math มาฝากกันด้วย
Science
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ของ GED จะกำหนดเวลาในการสอบอยู่ที่ 90 นาที วัดความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์, เคมี, ชีววิทยา, ดาราศาสตร์ และการทดลองต่าง ๆ มีเนื้อหาการสอบ 3 รูปแบบ ดังนี้
- Reading for Meaning in Science
- Designing and Interpreting Science Experiments
- Using Numbers and Graphics in Science
ข้อสอบ GED Science จะมีทั้งเลือกตอบ ลากตอบ หรือเติมคำตอบลงในช่องว่าง โดยในส่วนของข้อสอบที่ต้องอาศัยทักษะด้านการคำนวณบางข้อก็อนุญาตให้สามารถใช้งานเครื่องคิดเลขในการสอบได้
Social Studies
ข้อสอบในรายวิชาสังคมของ GED จะเป็นข้อสอบวัดความรู้ด้านสังคมศาสตร์ การเมืองและการปกครอง ไปจนถึงประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์และภูมิศาสตร์ กำหนดเวลาการสอบ 70 นาที มีเนื้อหาทั้งหมด 3 ส่วน ดังนี้
- Reading for Meaning in Social Studies
- Analyzing Historical Events and Arguments in Social Studies
- Using Numbers and Graphs in Social Studies
ข้อสอบ Social Studies จะมีทั้งเลือกตอบ ลากตอบ หรือเติมคำตอบลงในช่องว่าง และเนื่องจาก GED มีต้นกำเนิดมาจาก “สหรัฐอเมริกา” โดยเนื้อหาการสอบจะเกี่ยวกับความรู้ด้านสังคมศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก
GED Ready คืออะไร ?
ข้อสอบ GED Ready คือ ข้อสอบซ้อมก่อนลงสนามสอบ GED จริง โดยทางศูนย์สอบกำหนดให้ผู้ที่ต้องการสอบเทียบวุฒิ GED ทุกคนจะต้องทำการสอบ GED Ready ก่อนสอบจริงทุกครั้งทั้ง 4 รายวิชา โดยข้อสอบ GED Ready จะมีความคล้ายคลึงกับข้อสอบ GED แต่มีจำนวนข้อและระยะเวลาการทำสอบที่น้อยกว่า มีคะแนนเต็มที่ 200 โดยต้องสอบให้ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 145 คะแนน ถือเป็นการเตรียมความพร้อมและช่วยทบทวนจุดบกพร่องที่ควรปรับปรุงก่อนลงสนามสอบจริง
วิธีสมัครสอบ GED Ready คลิกที่นี่
วิธีการสมัครสอบ GED
การสมัครสอบ GED สามารถสมัครได้ง่าย ๆ ผ่านระบบออนไลน์บน www.ged.com โดยน้อง ๆ ทุกคนจะต้องสร้างบัญชีใหม่และกรอกประวัติส่วนตัวให้เรียบร้อย จากนั้นลงทะเบียนสอบ GED Ready ก่อน แล้วจึงจะสามารถเลือกวัน เวลา และสนามสอบที่สะดวกได้ เมื่อดำเนินการชำระค่าสอบผ่านบัตรเครดิตเป็นที่เรียบร้อยก็จะได้รับอีเมลยืนยันการสมัครสอบ ทั้งนี้ น้อง ๆ สามารถอ่านรายละเอียดวิธีการสมัครสอบ GED และรายชื่อสนามสอบ GED ในประเทศไทยได้ ที่นี่
อัตราค่าสมัครสอบ GED
ในส่วนของค่าธรรมเนียมการสอบ GED จะอยู่ที่วิชาละ $80 USD ส่วนค่าสอบ GED Ready จะอยู่ที่รายวิชาละ $6.99 USD แต่ถ้าน้อง ๆ คนไหนเลือกลงสมัครสอบ GED Ready แบบพร้อมกัน 4 วิชา อัตราค่าสมัครสอบจะอยู่ที่ $22.99 USD
วิธีการเทียบวุฒิ GED
เมื่อเราสอบ GED ผ่านครบทุกรายวิชาและได้ผลคะแนนเป็นที่น่าพอใจแล้ว น้อง ๆ ต้องดำเนินการยื่นขอเอกสารทางการศึกษาเพื่อนำไปลงทะเบียนในระบบ TCAS หรือใช้เป็นเอกสารยื่นสมัครตรงที่มหาวิทยาลัย ผ่านระบบเทียบวุฒิที่เว็บไซต์ https://hsces.atc.chula.ac.th โดยเอกสารที่สามารถขอได้จะมี 3 ประเภท
- ใบรับรองเทียบวุฒิการศึกษา (High School Equivalence Certificate)
- ใบแทนใบรับรองเทียบวุฒิการศึกษา (Provisional Equivalence Certificate)
- ใบเทียบผลการเรียนเฉลี่ยสะสม (GPAX Equivalence Certificate)
โดยสามารถอ่านขั้นตอนการยื่นขอเทียบวุฒิอย่างละเอียดได้ ที่นี่
GED ใช้ยื่นเข้ามหาวิทยาลัยไหนได้บ้าง ?
การสอบเทียบวุฒิ GED สามารถนำเอาไปใช้เพื่อยื่นเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยได้ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเกณฑ์การรับเข้าศึกษาอาจจะมีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละมหาวิทยาลัย แต่สำหรับน้อง ๆ ที่จะเรียนต่อมหาวิทยาลัยในประเทศไทยทั้งหลักสูตรภาคไทย (บางคณะ) และอินเตอร์ส่วนใหญ่จะระบุให้ใช้คะแนนตั้งแต่ 145 คะแนนขึ้นไป อย่างไรก็ตาม สำหรับเกณฑ์การรับเข้าศึกษาต่อของแต่ละหลักสูตร ทางพี่ ๆ House of Griffin ขอแนะนำให้น้อง ๆ เช็ก Requirement กับทางเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยโดยตรงอีกครั้งหนึ่ง เพราะในบางหลักสูตรอาจจะกำหนดคะแนนที่มากกว่า 145 คะแนน และอาจต้องมีการใช้คะแนนสอบวัดความถนัดอื่น ๆ อย่าง SAT, ACT หรือคะแนนภาษาอังกฤษในการสมัครร่วมด้วย
ตัวอย่างรายชื่อมหาวิทยาลัยในประเทศไทยที่เปิดรับวุฒิ GED
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- มหาวิทยาลัยมหิดล
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- มหาวิทยาลัยศิลปากร
- มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ
- สถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
GED และ IGCSE ต่างกันอย่างไร ?
การสอบ GED คือ การเทียบวุฒิระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายมีที่มาจากสหรัฐอเมริกา มีจำนวนวิชาเพียง 4 วิชา สามารถทยอยสอบเป็นรายวิชา รวมถึงสามารถเลือกวิชาสอบก่อน – หลัง ได้อย่างอิสระ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้สอบ โดย GED จะมีการจัดสอบทุกวัน มีเวลาหลายรอบให้เลือกสอบได้ ทราบผลคะแนนสอบทันทีหลังสอบเสร็จ เมื่อสอบผ่านแล้วจะทำการส่ง E-Diploma และ E-Transcript ให้กับผู้สอบ โดยหากต้องการรับใบประกาศนียบัตรและผลการสอบ GED ในรูปแบบกระดาษ จะต้องยื่นคำร้องขอเอกสารและชำระค่าส่งเพิ่มเติม
รวมคำถามเกี่ยวกับ GED Diploma & Transcript อ่านเพิ่มเติมคลิก
ส่วน IGCSE คือ หลักสูตรการศึกษาจากประเทศอังกฤษที่สอบเทียบวุฒิการศึกษาเทียบเท่ามัธยมศึกษาปีที่ 4 มีรายวิชาที่ต้องสอบอย่างน้อย 5 วิชา (จาก 70 วิชาที่มีให้เลือก) และหากต้องการได้วุฒิเทียบเท่าระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย นักเรียนจะต้องสอบ A-Level อีก 3 วิชา (สามารถเลือกรายวิชาที่จะสอบได้) โดย IGCSE มีการจัดสอบเพียงปีละ 2 ครั้ง ทราบผลสอบประมาณ 2 เดือนให้หลัง โดยหากสอบผ่านจะต้องติดต่อรับเอกสารวุฒิการศึกษาด้วยตัวเองที่ศูนย์สอบ
ความแตกต่างระหว่าง GED VS IGCSE อ่านเพิ่มเติม คลิก
เตรียมความพร้อมก่อนสอบ GED กับ House of Griffin
เพิ่มความมั่นใจก่อนสมัคร GED สอบให้ผ่านในครั้งเดียวกับ House of Griffin สถาบันติวสอบ GED อันดับ 1 ได้รับการรับรองจาก GED Official สหรัฐอเมริกาโดยตรง ให้เป็น Authorized GED Test Prep Provider เพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย มั่นใจในคุณภาพการสอนด้วยประสบการณ์กว่า 14 ปี การันตีสอบผ่าน 100% (ตามเงื่อนไขที่ทางโรงเรียนกำหนด) ภายในระยะเวลา 2 เดือน เปิดสอนทั้งหลักสูตรแบบออนไลน์และหลักสูตรเรียนในห้องเรียน ตอบโจทย์ทุกความต้องการของน้อง ๆ ทุกคน เริ่มต้นเตรียมตัวสอบ GED ต้องที่ House of Griffin เท่านั้น
Success Story








