
Gap Year นับเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะทำให้คุณได้ลองใช้ชีวิต ค้นหาความชอบของตัวเอง เปิดโลกกว้าง และเก็บเกี่ยวประสบการณ์นอกห้องเรียน น้อง ๆ หลายคนอาจมีความสนใจ แต่ก็อาจมีคำถามขึ้นมาว่า เป็นการตัดสินใจที่ดีหรือไม่ควร ทำแล้วคุ้มค่าหรือเสียเวลา แล้วตัดสินใจจะทำจริง ๆ ควรเริ่มตรงไหนดี วันนี้พี่กริฟฟินจึงขอมาแชร์ข้อมูลและให้คำแนะนำต่าง ๆ เพื่อเป็นข้อมูลก่อนตัดสินใจทำ Gap Year กันนั่นเอง ถ้าพร้อมแล้วตามมาเลย
Gap Year คืออะไร? ดีอย่างไร?
Gap Year คือ ช่วงเวลาของปีที่เป็นช่องว่างคั่นระหว่างนักเรียนมัธยมปลายกับนักศึกษามหาวิทยาลัย เด็กต่างชาตินิยม Take a gap year โดยการใช้เวลาในการค้นหาตัวเองด้วยการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่สนใจเป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี มีข้อดีคือ ทำให้มีเวลาใช้ชีวิต เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ และอาจค้นพบตัวเองได้ว่าเราชอบอะไรและสนใจในเรื่องอะไรเป็นพิเศษ ก่อนที่จะเลือกทางเดินในการเรียนมหาวิทยาลัยในคณะที่ตัวเองชอบและสนใจในสายนั้นจริง ๆ
Take a Gap Year ทำอะไรได้บ้าง
การทำ Gap Year ส่วนมากจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี นับว่าเป็นช่วงเวลาที่พอดีในการค้นหาตัวเอง ในทางกลับกันหากเราอยากหยุดพัก แต่ไม่มีจุดหมายและไม่รู้ว่าจะทำอะไรนั้นก็ถือว่าค่อนข้างเสี่ยงที่จะทำให้ช่วงเวลา 1 ปีนั้นสูญเปล่าได้เช่นกัน ดังนั้นเราอาจต้องวางแผนกิจกรรมคร่าว ๆ ที่เราสนใจเพื่อมีเส้นทางให้เดินไปอย่างไม่หลุดโฟกัส พี่กริฟฟินจึงรวบรวมกิจกรรมที่น่าสนใจเผื่อไว้เป็นแนวทางและแรงบันดาลใจในการตัดสินใจให้กับน้อง ๆ มาดูกันค่ะว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง

เรียนภาษาในต่างประเทศ
การเรียนภาษาในต่างประเทศนับเป็นกิจกรรมที่เป็นที่นิยม เพราะนอกจากจะได้พัฒนาทักษะทางด้านภาษาเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้ามหาวิทยาลัยหรือการทำงานแล้ว ยังได้เรียนรู้ทักษะการใช้ชีวิตและเรียนรู้วัฒนธรรมของแต่ละประเทศอีกด้วย ประเทศที่น่าสนใจในการไปเรียนภาษา เช่น อังกฤษ อเมริกา แคนาดา นิวซีแลนด์ เป็นต้น
ท่องเที่ยว
การเดินทางไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม เปรียบเสมือนการเปิดโลกใบใหม่ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ รอบตัว รวมถึงได้ดูวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของแต่ละที่ที่แตกต่างกันไป อาจทำให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ หรือค้นพบในสิ่งที่ตัวเองชอบก็เป็นไปได้
ทำงานหรือฝึกงาน
บางคนเลือกใช้เวลานี้ในการทำงานหรือฝึกงานในสายงานที่ตัวเองสนใจ ทำให้เราได้เจอผู้คนมากมาย เรียนรู้ชีวิตในด้านการทำงานต่าง ๆ อาจทำให้เราค้นพบตัวเองได้ว่าเราชอบอะไรและสนใจสิ่งไหนเป็นพิเศษ นอกจากจะได้ประสบการณ์การทำงานโดยตรงแล้ว ยังมีรายได้ไว้ใช้ในการเที่ยวเพื่อหาประสบการณ์เพิ่มเติมได้อีกด้วย
ลงคอร์สเรียนต่าง ๆ
น้อง ๆ สามารถค้นหาตัวตนและพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ ด้วยการลงคอร์สเรียนในสิ่งที่ตัวเองสนใจ เช่น เรียนดนตรี วาดภาพ ถ่ายรูปและวิดีโอ การเขียนโปรแกรมต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อใช้ในการต่อยอดในการเรียนมหาวิทยาลัยในคณะที่ใช่นั่นเอง แต่เราไม่อยากแนะนำให้ลงเรียนคอร์สวิชาการนะคะ (หยุดพักทั้งที ขอหนีเรื่องเรียนสักพักนะ)
เป็นอาสาสมัคร
อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจก็คือการเป็นอาสาสมัครเพื่อทำประโยชน์ให้กับสังคม เช่น อาสาในการเลี้ยงดูเด็ก เป็นครูอาสาตามพื้นที่ที่ขาดแคลน สร้างโรงเรียน ปรับทัศนียภาพตามพื้นที่ต่าง ๆ ช่วยคนบาดเจ็บหรือคนพิการ เป็นต้น น้อง ๆ จะได้เรียนรู้การใช้ชีวิตจากหลายมุมมอง ได้มิตรภาพจากกลุ่มคนที่มี Mindset คล้าย ๆ กัน แชร์ความชอบ ความคิด เหมือนเจอเพื่อนที่รู้ใจ เป็นการเติมพลังใจในอีกรูปแบบหนึ่งที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับตัวอย่างกิจกรรมในการค้นหาตัวเองในช่วงก่อนเข้ามหาวิทยาลัย น้อง ๆ สามารถเลือกทำมากกว่า 1 อย่างตามความสนใจของตัวเองได้เลย ยิ่งเก็บประสบการณ์ได้มากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นประโยชน์กับตัวเองมากเท่านั้น การที่เราค้นพบตัวเองว่าเราชอบและสนใจอะไรเป็นพิเศษจะทำให้สามารถเลือกเรียนคณะที่ใช่ในมหาวิทยาลัยได้อย่างไม่มีพลาดนั่นเอง รับรองว่าการค้นหาตัว 1 ปีนั้นไม่สูญเปล่าแน่นอน
ดีกว่าไหม ถ้าได้ทำ Gap Year แล้วก็เรียนจบพร้อมเพื่อนได้
หลายคนชอบคอนเซปต์ของ Gap Year แต่อีกใจก็กลัวเรียนจบไม่พร้อมเพื่อน ได้เริ่มทำงานช้ากว่าคนอื่น ใครที่มีความคิดแบบนี้บอกเลยค่ะไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะน้อง ๆ หรือผู้ปกครองอาจยังไม่คุ้นเคยกับกิจกรรมนี้เท่าไหร่ เมื่อเทียบกับวัยรุ่นและครอบครัวทางฝั่งตะวันตก
แต่ตอนนี้เรามีทางเลือกใหม่ที่สามารถทำให้น้อง ๆ ได้ออกไปค้นหาตัวเอง แล้วยังกลับมาเรียนจบมหาลัยฯ ได้พร้อมเพื่อน หรืออาจจะจบได้เร็วกว่าเพื่อน โดยใช้วิธีสอบเทียบ GED หลักสูตรอเมริกัน เพื่อให้ได้วุฒิ ม.6 ตั้งแต่อายุ 16 ปี ซึ่งทางเลือกนี้สามารถช่วยร่นระยะเวลาเรียนในระดับมัธยมปลายจาก 3 ปี ให้เหลือภายใน 2 เดือน ซึ่งวุฒิ GED นี้สามารถใช้ยื่นสมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัยทั้งในไทยและต่างประเทศ ทั้งภาคไทยและภาคอินเตอร์ (ขึ้นกับเกณฑ์ที่กำหนด) นอกจากจะช่วยประหยัดเงินแล้ว น้อง ๆ ยังมีเวลามากขึ้นในการค้นหาตัวเอง สามารถเอาเวลาที่เหลือไปใช้ชีวิต เพิ่มพูนทักษะ เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ค้นหาสิ่งที่ใช่และสิ่งที่ชอบให้กับตัวเองได้อย่างสบาย ๆ
ทำความรู้จักการสอบ GED เพิ่มเติม
การสอบเทียบ GED คืออะไร คลิก
คว้าวุฒิ ม.ปลายตั้งแต่อายุ 16 ปีด้วยการสอบเทียบ GED คลิก
รายละเอียดยื่นวุฒิ GED เข้ามหาลัยฯ เอกชน คลิก
ติวสอบ GED เก็บวุฒิ ม.6 ที่ House of Griffin แล้วออกไปแตะขอบฟ้าค้นหาตัวเอง
เรารู้ว่าเวลาของทุกคนมีค่า หากอยากออกเปิดโลกกว้างเพื่อค้นหาตัวเอง ตอนนี้ก็สามารถทำได้อย่างไม่ต้องกังวลด้วยการสอบเทียบ GED เพื่อร่นเวลาในการเรียนนั่นเอง และที่มากไปกว่านั้น GED สามารถสอบได้ตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป และเปิดสอบตลอดทั้งปี ทางเลือกนี้คือเหมาะที่สุด สำหรับใครที่อยากสอบ GED ผ่านใน 2 เดือน เพื่อมีเวลาทำ Gap Year มากขึ้น แนะนำให้มาติวกับทางสถาบัน House of Griffin ซึ่งเราได้รับการรับรองจาก GED Official สหรัฐอเมริกาโดยตรงให้เป็น Authorized GED Test Prep Provider เพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย น้อง ๆ จะได้เคล็ดลับในการทำข้อสอบมากมายจากทีมอาจารย์ที่มีประสบการณ์การสอนมามากกว่า 13 ปี อีกทั้งทางสถาบันยังการันตีสอบผ่าน 100% หากสอบไม่ผ่าน สามารถเรียนซ้ำใหม่ได้ ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด ยังไม่พอ ตอนนี้เรามีเปิดคอร์สใหม่ GED (Online) สอนสด ออนไลน์ เรียนได้ทุกที่ อยู่ที่ไหนก็จบ ม.6 สายอินเตอร์ได้ ทักมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยค่ะ