
ข่าวดีสำหรับน้อง ๆ ที่สนใจเรียนต่อสายเภสัช เพราะทางมหาวิทยาลัยมหิดลได้ประกาศเปิดหลักสูตร “เภสัชศาสตร์ ภาคอินเตอร์ (หลักสูตรนานาชาติ)” ออกมาให้สมัครเรียนกันแล้วในปีนี้ (เริ่มเปิดภาคการศึกษาแรกในปี 2567) วันนี้ทาง House of Griffin เลยจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับคณะเภสัชอินเตอร์มหิดลให้มากขึ้นจะได้เตรียมตัวให้พร้อมก่อนใคร
ทำไมต้องเภสัชอินเตอร์มหิดล?
เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะทราบกันดีกว่ามหาวิทยาลัยมหิดลนั้นเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความโดดเด่นในด้านหลักสูตรสายวิทยาศาสตร์สุขภาพเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย และคณะเภสัชศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหิดลเองก็เป็น 1 ใน 3 หลักสูตรที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน AUN – QA (ASEAN University Network Quality Assurance) ในภูมิภาคอาเซียน จึงทำให้เภสัชอินเตอร์มหิดลเป็นหนึ่งหลักสูตรที่น่าจับตามองสำหรับผู้ที่สนใจเรียนต่อสายเภสัชเป็นอันดับต้น ๆ
เภสัชอินเตอร์มหิดลเรียนกี่ปี? เรียนอะไรบ้าง?
หลักสูตรการเรียนของคณะนี้กำหนดระยะเวลาเรียนทั้งหมด 6 ปี ปีละ 2 ภาคการศึกษา โดยการเรียนในปีการศึกษาที่ 1 จะเรียนที่วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล (MUIC) วิทยาเขตศาลายา จ.นครปฐม จากนั้นในปีที่ 2 – 6 จะเรียนที่คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
สำหรับหลักสูตรนี้กำหนดจำนวนหน่วยกิตขั้นต่ำการจบหลักสูตรไว้ที่ 223 หน่วยกิต โดยเป็นหน่วยกิตการเรียนการสอนจำนวน 189 หน่วยกิต และหน่วยกิตจากการฝึกงานอีก 34 หน่วยกิต จึงมั่นใจได้เลยว่านอกจากจะได้รับความรู้ทางด้านทฤษฎีอย่างเข้มข้นแล้ว ยังมีการฝึกประสบการณ์ก่อนจบการศึกษาภายในสถานพยาบาลและองค์กรที่เกี่ยวข้องเป็นเวลาหลายเดือนอีกด้วย ดังนั้นผู้เรียนจะได้รับทั้งความรู้ด้านชีววิทยา ชีวเคมี กายวิภาคศาสตร์ ตลอดจนเคมียาพื้นฐานและความรู้ต่าง ๆ ด้านเภสัชกรรมอย่างเต็มที่ รวมไปถึงทักษะด้านการคิดแก้ไขปัญหา การรับมือดูแลผู้ป่วยและจรรยาบรรณวิชาชีพ และยังมีการสอดแทรกรายวิชาด้านการบริหารจัดการธุรกิจเพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ที่มีความสนใจเปิดร้านขายยาเป็นของตนเองในอนาคตอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางมหาวิทยาลัยมหิดลได้ระบุว่าหลักสูตรอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง เนื่องจากในปัจจุบันยังอยู่ในช่วงระยะเวลาการขอรับรองหลักสูตรจากกระทรวงศึกษาธิการ วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมอย่างเป็นทางการ
เปิด Requirement เกณฑ์การรับเข้าศึกษาต่อของเภสัชอินเตอร์มหิดล
คุณสมบัติขั้นต่ำของผู้ที่สนใจเรียนต่อคณะนี้จะต้องเป็นผู้ที่จบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (ระบบการศึกษาไทย), Year 13 (ระบบการศึกษาอังกฤษ) หรือ Grade 12 (ระบบการศึกษาสหรัฐอเมริกา) โดยอนุญาตให้ผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในปัจจุบันสามารถยื่นสมัครสอบได้โดยใช้เกรด 4 เทอม และผู้ที่จบการศึกษาแล้วใช้เกรดทั้งหมด 6 เทอม
คะแนนขั้นต่ำที่สามารถยื่นเข้าศึกษาต่อเภสัชอินเตอร์มหิดล
- เกรดเฉลี่ยรวมไม่ต่ำกว่า 3.00 โดยต้องมีเกรดในวิชา Chemistry, Biology, Physics และ Mathematics ร่วมด้วย (ไม่รับสายศิลป์-คำนวณ และศิลป์-ภาษา)
- หากมีวุฒิ IB จะต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 35 คะแนน (จากคะแนนเต็ม 45 คะแนน)
- หากใช้วุฒิ AS/A-LEVEL เกรดจะต้องได้ไม่ต่ำกว่า C (โดยต้องมีคะแนนอย่างน้อย 3 ใน 4 วิชา ดังต่อไปนี้ Chemistry, Biology, Physics และ Mathematics)
คะแนนภาษาอังกฤษแรกเข้า (อย่างใดอย่างหนึ่ง)
- IELTS ขั้นต่ำ 6.5 คะแนนขึ้นไป
- TOEFL (iBT) ขั้นต่ำ 79 คะแนนขึ้นไป
คะแนนอื่น ๆ ที่สามารถยื่นร่วมด้วยได้
- คะแนน BMAT (ไม่กำหนดคะแนนขั้นต่ำ) โดยสามารถใช้งานคะแนนย้อนหลังไม่เกิน 2 ปี ทั้งนี้ ปัจจุบันไม่มีการเปิดสอบ BMAT เพิ่มเติมแล้วหลังประกาศยกเลิกการสอบไปในเดือนตุลาคมปี 2566
- คะแนน SAT II ขั้นต่ำ 650 คะแนนขึ้นไป โดยต้องมีคะแนนอย่างน้อย 3 ใน 4 รายวิชา ได้แก่ Biology, Chemistry, Physic Mathematics
เรียนเภสัช จบแล้วทำอะไรได้บ้าง?
การเรียนเภสัชศาสตร์ไม่ได้จำเป็นที่จะต้องทำงานในสถานพยาบาลเสมอไป แต่น้อง ๆ สามารถเลือกเส้นทางอาชีพของตนเองได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเภสัชกรในโรงพยาบาล คลินิก ชุมชน, เภสัชกรสายผลิต (ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมด้านเภสัชกรรม), ผู้แทนยาในบริษัทหรือองค์กรด้านยา, นักวิจัยทางคลินิก, เจ้าของร้านขายยา, อาจารย์หรือนักวิชาการ