
มาทำความรู้จักกับสอบ IELTS กันก่อน
สอบ IELTS (International English Language Testing System) เป็นการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก การสอบ IELTS เป็นการออกแบบมาเพื่อประเมินทักษะของผู้ที่ต้องการใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสารเพื่อการทำงาน การศึกษา หรือการย้ายถิ่นฐาน
การสอบ IELTS เป็นการทดสอบการใช้ภาษาอังกฤษของทักษะทั้ง 4 ด้าน คือ การฟัง การพูด การอ่านและการเขียน โดยผู้สอบจะได้รับใบรายงานผลการสอบของแต่ละส่วนทั้ง 4 ทักษะ ลักษณะของคะแนนในการสอบจะแบ่งออกเป็น 9 ระดับ โดยคะแนนจะเริ่มต้นตั้งแต่ระดับที่ 1 ไปจนถึงระดับที่ 9 ซึ่งผลสอบ IELTS จะทำการวัดระดับความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของผู้สอบได้อย่างถูกต้อง
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่ www.houseofgriffin.com/blog/ielts-คือ-อะไร/
สอบ IELTS อย่างไรได้บ้าง
ในปัจจุบันมีทางเลือกการสอบ IELTS ให้ผู้สอบ 2 ทางเลือก คือ การสอบแบบ Computer-delivered (การสอบ IELTS บนคอมพิวเตอร์) และ Paper-based (การสอบ IELTS แบบกระดาษ) ซึ่งทั้งสองแบบนี้มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรายบุคคลว่าสะดวกกันแบบไหน อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเลือกการสอบแบบกระดาษ หรือการสอบแบบคอมพิวเตอร์ เนื้อหา รูปแบบคำถาม ทักษะที่สอบ รวมถึงระดับความยากของข้อสอบไม่มีความแตกต่างกัน นอกจากนี้เกณฑ์การให้คะแนนยังคงอิงตามเกณฑ์เดิมคือ มีทั้งหมด 9 ระดับ
แม้การสอบแบบ Computer-delivered ต้องสอบทักษะการฟัง, การอ่าน, และการเขียนในคอมพิวเตอร์ แต่สำหรับทักษะการพูดยังคงต้องสอบกับ Examiner แบบตัวต่อตัวเหมือนเดิม
สอบ IELTS บนคอมพิวเตอร์ดีกว่าสอบบนกระดาษอย่างไร
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าการสอบ IELTS แบบ Computer-delivered และ Paper-based มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละบุคคล แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าในยุคปัจจุบัน เด็ก Generation ใหม่ที่โตมาเป็น Digital Native มักจะนิยมสอบ IELTS บนคอมพิวเตอร์มากกว่า เนื่องจากเป็นเด็กยุค Paperless ที่แทบจะไม่ได้ใช้กระดาษในการเรียนการสอนเลย อีกทั้งยังชินกับการเรียนการสอนด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้เด็กรุ่นใหม่มีความถนัดในการสอบ IELTS บนคอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีความสะดวกและรวดเร็วมากกว่าการเขียน นอกจากนี้การสอบ IELTS บนคอมพิวเตอร์ยังมีข้อดีอีกมากมายดังต่อไปนี้
เริ่มกันที่ทักษะแรก Listening ตามด้วย Reading และ Writing ตามลำดับ ซึ่งการสอบ IELTS แต่ละทักษะแบบ Computer-delivered ผู้สอบจะได้รับกระดาษทดเพื่อจดโน้ตหรือวางแผนการคำตอบ ในขณะที่การสอบ IELTS แบบ Paper-based ผู้สอบสามารถจดโน้ตลงในกระดาษคำถามได้เลย
Listening Part
การสอบ IELTS แบบ Computer-delivered ในพาร์ทการฟัง ผู้สอบสามารถเพิ่มหรือลดเสียงเองได้และสามารถพิมพ์คำตอบเข้าไปได้เลยในระหว่างการฟัง หรือกดเลือกคำตอบต่าง ๆ ในคอมพิวเตอร์ได้เลย ทำให้ผู้สอบมีสมาธิจดจ่ออยู่กับเสียงที่เราฟังและคำถามได้ดีกว่า อีกทั้งยังมีหมายเลขข้อทุกข้อบอกถึงความคืบหน้าการทำข้อสอบว่าผู้สอบทำไปแล้วกี่ข้อ เหลือข้อไหนบ้างที่ยังไม่ได้ทำ และหลังเสียงบันทึกสิ้นสุดลง ผู้สอบจะมีเวลา 2 นาที สำหรับตรวจสอบความถูกต้อง
ส่วนการสอบ IELTS แบบ Paper-based ในส่วน Listening เมื่อเสียงคำถามทั้งหมดสิ้นสุดลงแล้ว ผู้สอบจะมีเวลา 10 นาที ผู้สอบจะต้องถ่ายคำตอบหรือลอกคำตอบที่จดไว้ในกระดาษคำถามลงในกระดาษคำตอบที่เป็นช่อง ๆ อีกที ซึ่งบางคนอาจจะถนัดกับการพิมพ์คำตอบลงไปเลยมากกว่า
Reading Part
การสอบ IELTS แบบ Computer-delivered ในพาร์ทการอ่าน นับว่าสะดวกแบบชนะขาดลอยเลยทีเดียว เนื่องจากการสอบ IELTS ในส่วน Reading บนหน้าจอคอมพิวเตอร์จะแสดงหน้าข้อสอบแบบแบ่งครึ่ง โดยครึ่งด้านซ้ายเป็นบทความ ส่วนครึ่งด้านขวาเป็นคำถามรายข้อ ทำให้ผู้สอบไม่ต้องพลิกกระดาษไปมาเหมือนการสอบบนกระดาษ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งในการทำข้อสอบ
อีกทั้งการสอบ IELTS บนคอมพิวเตอร์ในพาร์ทนี้ยังมีฟังก์ชันให้เราสามารถลากคลุมไฮไลท์คีย์เวิร์ดได้ด้วย รวมถึงผู้สอบสามารถใช้สูตรลับบนแป้นพิมพ์เพื่อ copy & paste คำตอบจาก passage ได้เพื่อป้องกันการสะกดผิดในคำตอบ ส่วนเรื่องการจับเวลา จะมีเวลาจับให้ชัดเจนบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ทำให้ผู้สอบสามารถวางแผนการอ่านได้ดีขึ้นว่าในเวลาเท่านี้ควรทำข้อสอบเสร็จกี่ข้อแล้ว เพราะหากหมดเวลา หน้าจอจะดับลงทันที
อย่างไรก็ตามหากใครที่ชอบเขียน วงหรือขีดเส้นใต้คีย์เวิร์ดลงบนกระดาษ การสอบ IELTS แบบ Paper-based อาจจะตอบโจทย์ได้มากกว่า
Writing Part
การสอบ IELTS พาร์ทการเขียนนี้เป็นพาร์ทที่บ่งบอกถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจนที่สุด เป็นอีกพาร์ทหนึ่งที่จะทำให้ผู้สอบตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าต้องการสอบ IELTS แบบไหน
การสอบ IELTS บนคอมพิวเตอร์จะเป็นการพิมพ์บนคีย์บอร์ด ซึ่งนับว่าเป็นทางเลือกที่สะดวกมาก ๆ การสอบ IELTS บนคอมพิวเตอร์ในพาร์ทการเขียนจะมีระบบนับคำให้แบบอัตโนมัติ และรวมถึงจะมีเวลาของการสอบบอกชัดเจนบนหน้าจอ ที่สำคัญการพิมพ์ในคอมพิวเตอร์ Examiner จะสามารถอ่านออกได้อย่างแน่นอน ไม่ต้องกังวลเรื่องลายมือ เพราะฉะนั้นหากผู้สอบมีความสามารถด้านการพิมพ์ การสอบ IELTS บนคอมพิวเตอร์แบบนี้จะเหมาะสมมากกว่า
ในขณะเดียวกันการสอบ IELTS แบบ Paper-based ในพาร์ทการเขียนจะเป็นการเขียน essay ลงบนกระดาษ โดยผู้สอบสามารถที่จะวางแผนการเขียนได้ในกระดาษคำถาม เหมาะกับผู้สอบที่ชอบการวางแผนก่อนเขียน แต่ผู้สอบจะต้องนับหรือประมาณจำนวนคำที่เขียนลงไปเอง คือ TASK 1 อย่างน้อย 150 คำ และ TASK 2 อย่างน้อย 250 คำ อีกทั้งยังต้องระวังในเรื่องลายมือให้แน่ใจว่า Examiner จะอ่านออกในระหว่างการให้คะแนนได้ เพราะถ้าหากลายมืออ่านไม่ออก หรือสะกดผิดก็อาจะทำให้เสียคะแนนได้ง่าย ๆ ทั้งนี้ระหว่างการสอบจะมีผู้คุมสอบคอยบอกเวลาเป็นระยะ
Speaking part
การสอบ IELTS ในพาร์ทการพูด ไม่ว่าผู้สอบจะเลือกสอบบนคอมพิวเตอร์หรือบนกระดาษ ผู้สอบจะต้องทำการสอบพูดกับผู้คุมสอบแบบตัวต่อตัวเหมือนกัน
สามารถทดลองสอบ IELTS บนคอมพิวเตอร์ได้ที่นี่ www.ielts.idp.co.th/regis/computer_mock_test.aspx
ข้อควรรู้เกี่ยวกับสอบแบบ Computer-delivered หรือแบบ Paper-based
- ค่าใช้จ่าย:
- IDP: ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป IDP IELTS จะมีการปรับราคาค่าสมัครสอบ IELTS Regular ทั้งแบบกระดาษและแบบคอมพิวเตอร์ จากราคา 7,100 บาท เป็น 7,350 บาท
- British Council: สำหรับ IELTS Regular ทั้งแบบกระดาษและแบบคอมพิวเตอร์ ราคาอยู่ที่ 7,350 บาท
- ผลการสอบ: การสอบ IELTS Computer-Delivered Test ผู้สอบจะได้ผลการสอบที่เร็วกว่า โดยจะแจ้งผลคะแนนทางระบบออนไลน์ และ SMS ภายใน 5-7 วัน ในขณะเดียวกันผลการสอบ IELTS Paper-Based Test ผู้สอบจะได้ผลการสอบประมาณ 13 วัน ดังนั้นต้องพิจารณาให้ดีว่าผู้สอบต้องการใช้ผลการสอบเมื่อใด
- ศูนย์สอบ: สถานที่สอบ IELTS จะขึ้นอยู่กับสถาบันที่ผู้สมัครเลือกมีทั้ง IDP และ British Council หากเป็นศูนย์สอบที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ทั้งสองสถาบันจะมีการจัดการสอบแบบคอมพิวเตอร์ให้ แต่หากเป็นในสนามสอบต่างจังหวัด ส่วนใหญ่จะเป็นการสอบแบบกระดาษมากกว่า
ในประเทศไทยมีศูนย์สอบ IELTS อยู่ด้วยกัน 2 แห่ง
1. IDP (ตัวแทนการจัดสอบจากประเทศออสเตรเลีย):
- ศูนย์สอบ IELTS แบบกระดาษ – กรุงเทพฯ (M Academy บิ๊กซีราชดำริ และ Newton Prep ที่สยาม) เชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่ ภูเก็ต โคราช มหาสารคาม พิษณุโลก
- ศูนย์สอบ IELTS แบบคอมพิวเตอร์
กรุงเทพฯ
- IDP Office, CP Tower สีลม ชั้น 4 (BTS: สถานีศาลาแดง / MRT: สถานีสีลม) เปิดสอบทุกวัน โดยวันศุกร์จะเป็นการสอบของ IELTS UKVI เท่านั้น
- Paradigm, Alma Link ชั้น 2 (BTS: สถานีชิดลม) เปิดสอบทุกวันอาทิตย์ เฉพาะ IELTS Regular
- Interpass Siam Square ซอย 10 (BTS: สถานีสยาม) เปิดสอบทุกวันพฤหัสฯ เฉพาะ IELTS Regular
เชียงใหม่
- สถาบันสอนภาษา I-Genius เซ็นทรัลเฟสติวัล, โซนการศึกษา ชั้น 3
ขอนแก่น
- Greater Good Education แก่นนครออฟฟิศพาร์ค ชั้น 3
เช็กตารางสอบและศูนย์สอบของ IDP ได้ที่ https://ielts.idp.com/thailand
2. British Council (ตัวแทนการจัดสอบจากสหราชอาณาจักร):
- ศูนย์สอบ IELTS แบบกระดาษ – กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ปทุมธานี เชียงใหม่ พิษณุโลก นครราชสีมา (โคราช) ขอนแก่น ภูเก็ต
- ศูนย์สอบ IELTS แบบคอมพิวเตอร์ – กรุงเทพฯ เชียงใหม่
สนามสอบ IELTS ทั้งสองหน่วยงานมีการจัดการสอบขึ้นเป็นประจำ แต่ผู้สอบควรตรวจสอบข้อมูลจากศูนย์สอบก่อนทุกครั้ง
เช็กตารางสอบและศูนย์สอบของ British Council ได้ที่ www.britishcouncil.or.th/exam/ielts/dates-fees-locations
สนามสอบ IELTS ทั้งสองหน่วยงานมีการจัดการสอบขึ้นเป็นประจำ อย่างไรก็ดี เนื่องจากสถานการณ์โควิด สถานที่สอบอาจมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น ก่อนถึงวันสอบจริง ผู้สอบควรตรวจสอบข้อมูลจากศูนย์สอบก่อนทุกครั้ง ทั้งจากเว็บไซต์และเช็คอีเมลซึ่งอาจได้รับแจ้งรายละเอียดวันสอบ เวลา และสนามสอบ
เลือกสอบ IELTS บนคอมพิวเตอร์ (Computer-delivered) หรือสอบ IELTS แบบกระดาษ (Paper-based) ดี
- หากพิมพ์ช้าหรือมักพิมพ์ผิด ให้เลือกเป็นการสอบ IELTS แบบกระดาษดีกว่า
- หากลายมืออ่านยากมาก ๆ ควรเลือกเป็นสอบ IELTS บนคอมพิวเตอร์ เพราะหากเขียนแล้ว ลายมืออ่านยากเกินไป ก็อาจถือเป็นข้อผิดและไม่ได้คะแนนหรืออาจจะโดนหักคะแนนทันที
- หากไม่ชอบการสอบที่ต้องนั่งอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ การเลือกสอบ IELTS แบบกระดาษน่าจะเหมาะกว่า
- หากแน่ใจว่ามีความสามารถในการพิมพ์คอมพิวเตอร์ได้เร็ว และถูกต้องเพียงพอ ก็ควรเลือกสอบ IELTS บนคอมพิวเตอร์
- หากเป็นคนชอบขีดเขียน Short note ลงบนกระดาษข้อสอบ ก็ควรเลือกสอบ IELTS แบบกระดาษ
- หากมีความจำเป็นที่ต้องใช้ผลสอบ IELTS ภายในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ ก็ควรเลือกสอบ IELTS แบบคอมพิวเตอร์ เนื่องจากจะได้ผลการสอบที่เร็วมากกว่า
อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเลือกสอบแบบไหน ศึกษาข้อมูลให้ดี เลือกที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด เพราะการเลือกแบบการสอบที่เหมาะสมถือว่าผู้สอบมีข้อได้เปรียบไปแล้วไม่น้อยเลย และเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจในการสอบ
House of Griffin ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้แทน IDP Education ในการรับสมัครการทดสอบ IELTS อย่างเป็นทางการ สามารถช่วยนักเรียนวางแผนเตรียมความพร้อมตั้งแต่รับสมัคร มีคอร์สฝึกตะลุยโจทย์ และให้คำแนะนำที่ตรงจุดด้วยประสบการณ์กว่า 13 ปี เพื่อที่นักเรียนมีความพร้อมและสามารถทำข้อสอบ IELTS ได้อย่างมั่นใจ