
ใครที่กำลังวางแผนเข้ามหาวิทยาลัยหลักสูตรอินเตอร์หรือแพลนไปเรียนต่อระดับปริญญาที่ต่างประเทศในคณะที่ต้องยื่นคะแนน SAT และกำลังหาข้อมูลการสมัครสอบ SAT อยู่ห้ามพลาดบทความนี้เลย เพราะพี่กริฟฟินจะมารีวิวขั้นตอนการสมัครสอบ SAT ออนไลน์ด้วยตัวเองฉบับปีล่าสุดที่น้อง ๆ ทุกคนสามารถทำตามได้ทันทีตั้งแต่ครั้งแรก บทความนี้จะช่วยให้น้อง ๆ เข้าใจกระบวนการสมัครสอบ SAT ได้อย่างละเอียดและชัดเจนมากยิ่งขึ้น
9 ขั้นตอนง่าย ๆ สมัครสอบ SAT ด้วยตัวเอง
ขั้นตอนที่ 1
ไปที่เว็บไซต์ https://www.collegeboard.org/ จากนั้นกดเข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีใหม่กับ College Board (หากมี Account อยู่แล้วสามารถข้ามไปขั้นตอนที่ 2 ได้เลย)
สำหรับน้อง ๆ ที่ยังไม่มี Account ให้กดไปที่ Create Account โดยเลือกเป็นประเภท Student
จากนั้นกรอกข้อมูลส่วนตัวลงไปให้ครบถ้วน โดยสามารถเลือกกรอกข้อมูลเฉพาะช่องที่มีเครื่องหมายดอกจัน (*) กำกับได้ ไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลทุกช่อง
ในช่อง High School Graduation ให้กรอกช่วงเวลาที่คาดว่าจะจบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 (หากน้อง ๆ คนไหนใช้การสอบเทียบ GED หรือ IGCSE สามารถเลือกเป็นปีปัจจุบันได้เลย)
ส่วนช่อง Where do you go to school? ให้พิมพ์ชื่อโรงเรียนของน้อง ๆ ลงไป แต่หากไม่เจอชื่อโรงเรียน หรือน้องคนไหนเรียนนอกระบบก็สามารถเลือกที่ I am no longer in high school / My school is not listed แทนได้
ถัดมาในส่วนของข้อมูลที่อยู่ (Personal Information) ให้กดเลือกที่ “Outside the U.S.” ก่อน จากนั้นกรอกที่อยู่ของเราลงไป ตามด้วยกดยอมรับข้อตกลงในการสมัคร (I agree with the Legal Terms for Students) และกด Next ได้เลย
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทั้งหมดแล้วกด “Confirm”
ถัดมาเป็นขั้นตอนการยืนยันตัวตน น้อง ๆ จะต้องกรอกรหัสตัวเลข 6 หลักที่ทาง College Board ส่งมาทางอีเมล และกด “Verify”
สร้าง Password สำหรับเข้าสู่ระบบและกำหนด Security Phase (ตัวช่วยในการบอกใบ้กรณีลืม Password)
กรอกเบอร์โทรศัพท์โดยเลือกรหัสเป็น +66 สำหรับประเทศไทย จากนั้นกรอกรหัสตัวเลขที่ส่งมาทาง SMS เพื่อยืนยันตัวตนอีกครั้ง (ขั้นตอนนี้สามารถกด Skip ได้)
ขั้นตอนที่ 2
เข้าสู่ระบบ College Board โดยเลือกรูปแบบ Account ที่เคยลงทะเบียนเอาไว้ (Student/ Educator) โดยสำหรับน้อง ๆ สามารถเลือกที่ Student (นักเรียน) แล้วกรอกอีเมลที่สร้าง Account เอาไว้ได้เลย
เมื่อเข้าสู่ระบบเป็นที่เรียบร้อยให้กดเข้าไปที่เมนู “Registration Deadline for XXX SAT is XXX*”
จากนั้นจะปรากฎหน้าตารางวัน-เวลาการสอบและระยะเวลาการรับสมัครสอบ SAT ขึ้นมา จากนั้นเลือกกดไปที่ “Register” (เลือกวันสอบใดก็ได้ที่สะดวก โดยสามารถเปลี่ยนแปลงวันสอบได้ทีหลังในขั้นตอนการสมัครสอบถัดไป)
*ระยะเวลาเปิดสมัครสอบแต่ละรอบจะแตกต่างกันออกไป โดยจะสามารถเลือกรอบสอบได้ถึงปีละ 7 รอบในช่วงเดือนมีนาคม, พฤษภาคม, มิถุนายน, สิงหาคม, พฤศจิกายน และธันวาคม (ระยะเวลาปิดรับสมัครสอบส่วนมากจะกำหนดไว้ก่อนวันสอบประมาณ 2 สัปดาห์)
ขั้นตอนที่ 3
เริ่มต้นสมัครสอบโดยกดไปที่ “Get Started” จากนั้นจะปรากฏข้อมูลส่วนตัวที่เราเคยกรอกเอาไว้ตอนสมัคร Account ในหน้านี้ น้อง ๆ จะต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและกรอกข้อมูลในส่วนของชื่อโรงเรียนที่ศึกษาอยู่ในปัจจุบันเพิ่มเติมโดยกดไปที่ “Edit” ในส่วนของข้อมูล “Name of your high school” กดเลือก “Outside the United States” และกรอกช่อง Country เป็น “Thailand” จากนั้นกด “Search for High School”
หากน้องคนไหนเรียนในโรงเรียนนานาชาติที่มีอยู่ในลิสต์ของเว็บไซต์ก็กด “Select” เลือกที่โรงเรียนของเราได้เลย แต่หากไม่มีโรงเรียนในรายชื่อให้กดไปที่ “Can’t find your high school” จากนั้นเลือก “My High School Is Not Listed” หรือหากน้องคนไหนเรียนนอกระบบก็กดไปที่ “I am home-schooled” ได้เลยค่ะ
ถัดมาให้กด “Confirm” ข้อมูลที่เหลือก่อนกด “Continue”
ขั้นตอนที่ 4
กรอกข้อมูล Demographics สำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการนำคะแนน SAT ไปยื่นเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่สหรัฐอเมริกา แต่สำหรับน้องคนไหนที่ไม่ได้วางแผนจะไปเรียนต่อที่อเมริกา ในหน้า 1 – 10 ต่อไปนี้ สามารถเลือกตอบ “I do not wish to respond” ทุกข้อที่มีดอกจันกำกับได้เลย (สำหรับช่อง “School Search Services” ให้กด “No, Thanks” และไปต่อหน้าอื่น ๆ หรือกดข้ามได้เลย) แล้วคลิกที่ “Continue”
ขั้นตอนที่ 5
เมื่อกรอกข้อมูลส่วนตัวครบถ้วนแล้ว ก็จะเข้าสู่หน้าการเลือกวันและสถานที่สอบ โดยกดที่ “Get Started” จากนั้นอ่านข้อตกลงในการสมัครสอบแล้วเลือก “I have read and I accept these terms and conditions” และกด “Continue”
สำหรับเมนู Testing Country or Region ให้เลือก “Outside the United States” และกด “Next” จากนั้นเลือกวันที่ต้องการสอบ SAT แล้วกด “Next”
ในช่อง Test Center เลือกประเทศเป็น “Thailand” และกด “Find a Test Center” เพื่อเลือกศูนย์สอบที่ต้องการแล้วกด “Select” ก่อนไปที่ “Continue”
ขั้นตอนที่ 6
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทั้งหมดอีกครั้งหนึ่งก่อนกด “I am human” โดยหลังจากนี้น้อง ๆ จะมีเวลาเพียงแค่ 20 นาทีในการอัปโหลดรูปภาพ, ตรวจสอบข้อมูล และชำระค่าสมัครสอบ จึงแนะนำให้เตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้พร้อมก่อนกด “Continue”
ขั้นตอนที่ 7
หลังจากเลือกวันและสถานที่สอบเรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการอัปโหลดรูปภาพ โดยสามารถกดไปที่ “Get Started” และเริ่มอัปโหลดรูปภาพได้ทันที ซึ่งรูปภาพนี้จะต้องเป็นรูปเดี่ยวหน้าตรงคล้ายรูปเอกสารทางราชการที่จะเห็นศีรษะและหัวไหล่ชัดเจน ไม่เบลอ ไม่มืดหรือสว่างจนเกินไป และไม่สวมหมวก (สามารถยิ้มได้ แต่ต้องไม่ใช้รูปที่ดูติดเล่นมากจนเกินไป)
เมื่อเตรียมรูปภาพเรียบร้อยให้กดไปที่ “Load a photo” และอัปโหลดรูปได้เลย (รองรับไฟล์ที่มีขนาดสูงสุดที่ 2MB เท่านั้น หากไฟล์มีขนาดใหญ่เกินไปจะต้อง Compress รูปภาพก่อนอัปโหลด)
เมื่ออัปโหลดภาพแล้วจะสามารถย่อ-ขยายรูปภาพให้อยู่ในกรอบที่ต้องการได้ โดยเมื่อปรับจนพอใจแล้วให้กดไปต่อ
จากนั้นตรวจสอบว่ารูปภาพที่เลือกใช้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามระบุ (เห็นใบหน้าตรง, เห็นศีรษะและหัวไหล่ และรูปมีความชัดเจน) แล้วคลิก “Submit”
ระบบจะทำการประมวลผลรูปติดบัตรสอบออกมาให้เราดำเนินการตรวจสอบรูปอีกครั้งหนึ่งและกด “Continue”
ขั้นตอนที่ 8
ต่อมาเป็นการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลครั้งสุดท้ายก่อนชำระเงิน โดยกดที่ “Next, Check out”
เลือกอุปกรณ์ที่จะใช้งานในการสอบ จากนั้นกด “Continue” (เนื่องจากปรับเป็นระบบ Digital SAT จึงต้องใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการสอบ โดยสามารถตรวจสอบรายละเอียดอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานได้ ที่นี่)
ถัดมาให้ตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลการสมัครสอบอีกครั้งหนึ่งก่อนกด “Confirm”
จากนั้นกดไปที่ “I confirm this information is accurate” และคลิก “Confirm” อีกครั้ง
ขั้นตอนที่ 9
ชำระเงินค่าสมัครสอบ โดยในหน้า Make a Payment ให้เลือกวิธีการชำระเงินที่สะดวก (รับชำระเงินผ่าน Paypal และบัตรเครดิตเท่านั้น) จากนั้นดำเนินการชำระเงินให้เรียบร้อยก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการสมัครสอบ SAT
หลังจากที่ชำระค่าสมัครสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะปรากฎหน้า “Admission Ticket” หรือตั๋วสอบที่น้อง ๆ จะต้องนำไปยื่นที่ศูนย์สอบในวันสอบ แต่ไม่จำเป็นต้องรีบพิมพ์ Admission Ticket ในทันที เพราะน้อง ๆ สามารถกดเข้าไปเช็กในระบบหรืออีเมลที่ College Board ส่งมายืนยันการสมัครสอบได้ (หากมีการเปลี่ยนแปลงวันหรือสนามสอบ ทาง College Board จะดำเนินการปรับเปลี่ยนในระบบและส่ง Admission Ticket มาให้อีกครั้งในอีเมล)
เตรียมพร้อมก่อนสมัครสอบ SAT กับ House of Griffin
จบไปแล้วกับ 9 ขั้นตอนในการสมัครสอบ SAT น้อง ๆ คนไหนแพลนจะใช้คะแนน SAT ยื่นเข้าคณะในฝันก็สามารถเริ่มเตรียมตัวได้ตั้งแต่วันนี้ด้วยการลงติวสอบ SAT กับ House of Griffin เลือกเรียนได้ทั้งคอร์ส SAT แบบติวเข้มจัดเต็ม 100 ชั่วโมงเต็ม และคอร์ส SAT Intensive ติวแบบเน้นตะลุยโจทย์จากคลังข้อสอบเก่า 30 ชั่วโมงเน้น ๆ พิชิตคะแนน SAT แบบผ่านฉลุยในครั้งเดียวไม่ต้องสอบซ้ำ