Skip to content

ข้อสอบ GED RLA (Reasoning Through Language Arts) เป็นข้อสอบที่ท้าทายที่สุดจริงหรือไม่?

GED RLA โรงเรียนกวดวิชาเข้าหลักสูตรนานาชาติ House of Griffin

ถ้าพูดถึงข้อสอบ GED RLA นักเรียนส่วนมากมักจะเป็นกังวลเนื่องจากได้ยินได้ฟังมามากว่าวิชา Reasoning Through Language Arts หรือ RLA นั้นมีความยากมากที่สุดใน 4 วิชาหลัก ดังนั้นวันนี้ House of Griffin จะมาบอกเทคนิคและวิธีการทำให้นักเรียนชนะความกังวลในข้อสอบ GED RLA เพื่อทำคะแนนให้สูงและมีประสิทธิภาพมากที่สุด เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

ข้อสอบ GED RLA คือ อะไร มีรายละเอียดอย่างไร?

วิชานี้จะมีเนื้อหาทั้งการอ่านและการเขียน โดยจะใช้เวลาสอบ 150 นาที Reasoning Through Language Arts ไม่ใช่แค่นักเรียนอ่านภาษาอังกฤษพอได้หรือเขียนภาษาอังกฤษพอเป็น แต่นักเรียนจะต้องเขียนคำตอบที่ทั้งมีเหตุผล และเขียนตอบเป็นภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ (academic) จากข้อมูลอ้างอิงในบทความ รวมถึงข้อมูลจริงที่ไม่ได้มาจากความคิดของนักเรียน 

ดังนั้นวิชา RLA ที่เน้นการคิดวิเคราะห์นั้น นักเรียนจะต้องอ่านบทความให้ลึกซึ้งเนื่องจากข้อสอบอาจถามถึงสไตล์ คุณลักษณะของตัวละครในบทความ ไปจนถึงโทนเสียงที่โจทย์ใช้ (tone of voice) ซึ่งหลายๆครั้งนักเรียนจะไม่สามารถหาคำตอบจากบทความได้ เนื่องจากต้องใช้การคิดวิเคราะห์จากเหตุและผลด้วยตัวนักเรียนเองค่ะ

ข้อสอบ GED RLA มีจุดเด่นอยู่อย่างหนึ่งคือนักเรียนต้องบูรณาการเนื้อหาในแต่ละรายวิชาสอบของ GED เข้ามาประยุกต์ใช้ในการตอบคำถาม อาทิ เนื้อเรื่องของการอ่านเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ กฎหมาย บุคคลสำคัญของอเมริกาและวรรณกรรมของอเมริกา รวมไปถึงคำศัพท์ทางวิชาการ โดยในข้อสอบนักเรียนจะได้อ่านบทความ 2 เรื่อง เรื่องแรกเป็นการสนับสนุนสถานการณ์ที่โจทย์กำหนดมา ส่วนเรื่องที่สองจะเป็นการไม่สนับสนุนสถานการณ์ที่โจทย์กำหนด หรือให้นักเรียนเขียนในเชิงปฎิเสธนั่นเอง

สิ่งที่นักเรียนจะต้องทำคืออ่านบทความทั้ง 2 เรื่องให้เข้าใจและนำมาเรียบเรียงเพื่อบอกว่าเราเห็นด้วยกับบทความไหนมากกว่ากัน รวมไปถึงบอกเหตุผลว่าทำไมถึงเลือกบทความนั้นๆ โดยจำนวนคำที่ทาง GED แนะนำคือ 500 -700 คำ แต่มีข้อควรระวังคือนักเรียนไม่ควรนำความคิดเห็นของตัวเองมาตอบ เพราะคำตอบต้องมาจากข้อมูลที่มีพื้นฐานของความจริงเท่านั้น

เมื่อนักเรียนเริ่มทราบแล้วว่าข้อสอบ GED RLA มีรูปแบบเป็นอย่างไร House of Griffin จะมาแนะนำเทคนิคเล็กๆน้อยๆให้นักเรียนสามารถทำคะแนนได้สูงขึ้นดังนี้ค่ะ

เทคนิคที่ 1: ฝึกฝนตั้งคำถามและตอบคำถามจากบทความภาษาอังกฤษที่นักเรียนอ่าน

เทคนิคนี้จะช่วยให้นักเรียนฝึกคิดวิเคราะห์ตัวละครและเนื้อหาในบทความได้อย่างลึกซึ่ง โดยคำถามในข้อสอบ GED RLA นี้จะมีการแบ่งระดับ 4 ระดับ ของความลึกซึ่งในการวิเคราะห์อีกด้วย

คำถามเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในเรื่อง เช่น ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อไหร่ (Who, What, Where, When, Why, How?)
การตีความสถานการณ์ในเรื่อง ซึ่งส่งผลให้เกิดสถานการณ์อื่น ๆ ตามมา (How is? How does? Did it happen?)
การเชื่อมโยงเหตุผลจากบทความที่กำหนด (Why can you use it? Why did it happen?)
ฝึกต่อยอดในสิ่งที่โจทย์ให้ ซึ่งคำตอบของคำถามนี้มักจะอยู่ในข้อสอบข้อเขียนแบบ Extended Response

เทคนิคที่ 2: ฝึกอ่านแบบ Skimming & Scanning

ในการอ่านโจทย์ของ ข้อสอบ GED RLA นั้น เราแนะนำให้นักเรียนอ่านรอบแรกอย่างรวดเร็ว (skimming) เพื่อให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาโดยรวม ใช้ตอบคำถามกว้าง ๆ ที่อาจทำได้ก่อนโดยไม่ต้องอ่านเจาะเนื้อหามากนัก และการอ่านเชิงลึก (scanning) เพื่อตอบโจทย์ที่ถามเฉพาะส่วนที่โจทย์ต้องการให้นักเรียนคิดวิเคราะห์เนื้อเรื่องและต่อยอดจากสิ่งที่โจทย์ถาม

เทคนิคที่ 3: ใช้วิธีการลากเส้นหรือไฮไลท์ประโยคที่สำคัญ

การไฮไลท์ส่วนที่สำคัญเพื่อให้นักเรียนกลับมาอ่านอีกครั้งได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเน้นเนื้อหาในส่วนที่สำคัญได้

เทคนิคที่ 4: อ่านหนังสือภาษาอังกฤษและหาคำศัพท์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ

เพราะข้อสอบ GED นั้นต้องใช้คำศัพท์ทางวิชาการที่หลากหลาย นักเรียนไม่ควรพลาดโอกาสในการเพิ่มคะแนนสอบ GED RLA ด้วยการฝึกอ่านหนังสือหรือดูสื่อต่างๆเป็นภาษาอังกฤษเพื่อเพิ่มความคุ้นเคยกับศัพท์ใหม่ ๆ ที่อาจนำมาประยุกต์ใช้ได้ในการสอบ House of Griffin ขอแนะนำเว็บไซต์ www.newsela.com ที่จะช่วยนักเรียนฝึกฝนในการอ่านมากขึ้น โดยมีเนื้อหาที่ครอบคลุมเรื่องราวของประเทศอเมริการวมไปถึงในบริบทของโลกอีกด้วย

เทคนิคที่ 5: ฝึกเขียนสรุปเป็นภาษาอังกฤษเมื่ออ่านบทความเสร็จ

ลองใช้คำศัพท์ที่แปลกใหม่ในการฝึกสรุป เรื่องเดียวกันอาจจะเขียนสรุปได้หลายแบบ หลายสไตล์ เมื่อฝึกจนชำนาญแล้วจะสามารถพลิกแพลงและทำข้อเขียนของ GED RLA ได้อย่างมั่นใจค่ะ

Share this article