Skip to content

สมัครสอบ BMAT ด้วยตัวเอง

สมัครสอบBMAT

สมัครสอบ BMAT ไม่ได้มีวิธีการสมัครซับซ้อนเหมือนที่หลาย ๆ คนคิด ทำเองที่บ้านได้ไม่ยาก วันนี้ House of Griffin จะมาสอนวิธีการสมัครสอบ BMAT ด้วยตัวเองกันค่ะ

สิ่งแรกผู้สมัครสอบต้องเข้าใจก่อนว่าการสอบ BMAT นั้นในแต่ละประเทศทั่วโลกจะมีตัวแทน หรือ Authorized Agent ที่จัดการทดสอบ BMAT โดยเฉพาะอยู่ ดังนั้นผู้สมัครสอบหลายคนอาจจะยังไม่รู้วิธีการค้นหาว่าสามารถไปสอบ BMAT ได้ที่ไหนในประเทศไทยบ้าง ดังนั้นเราจะมาเริ่มหากันก่อนว่าศูนย์สอบที่ใกล้คุณที่สุดอยู่ตรงไหนด้วยขั้นตอนดังนี้

     

      1. เข้าเว็บไซต์กลางของ BMAT: www.admissionstesting.org/find-a-centre

      1. ค้นหาศูนย์สอบที่สะดวกที่สุดในแผนที่: ภายใต้หัวข้อ Search for an authorized test centre ที่มีแผนที่ ให้เลือก Thailand แล้วกดปุ่ม Search จากนั้นระบบจะแสดงรายชื่อศูนย์สอบขึ้นมา

      1. เลือกจากศูนย์สอบที่มีทั่วประเทศ: กรุงเทพฯ ชลบุรี นครราชสีมา พิษณุโลก ขอนแก่น ภูเก็ต หรือเชียงใหม่

    ข้อที่ควรรู้ก่อนลงทะเบียนสอบ BMAT ด้วยตัวเอง

    หน้าเว็บไซต์ของ Cambridge Admission จะแจ้งไว้ว่าแต่ละศูนย์สอบอาจจะมีหมายกำหนดการเปิด-ปิดรับสมัครที่แตกต่างกันไป ดังนั้นหากผู้สมัครได้สมัครไว้ที่ศูนย์สอบไหนก็ควรหมั่นตรวจเช็กข้อมูลจากศูนย์นั้นเป็นหลักเท่านั้น บางศูนย์สอบอาจจะมีผู้ใช้บริการค่อนข้างมากและมีการจำกัดจำนวนในการรับผู้สมัคร จึงควรรีบสมัครและเช็กสิทธิ์ในการสอบตั้งแต่เนิ่น ๆ

    นอกจากนี้บางศูนย์สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ได้ แต่บางศูนย์จะต้องกรอกแบบฟอร์มและอัปโหลดใบสมัครส่งไปอีกครั้ง

    วิธีสมัครสอบ BMAT ผ่านหน้าเว็บไซต์

    ศูนย์ที่จัดสอบในประเทศมักจะใช้ทั้งการกรอกแบบฟอร์มและการลงทะเบียน BMAT ผ่านหน้าเว็บไซต์ของตัวศูนย์สอบ ในกรณีที่ผู้สมัครต้องสมัครสอบผ่านหน้าเว็บไซต์นั้นจะต้องทำการ “Sign Up” หรือทำการสมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์ถึงจะสามารถดำเนินการลงทะเบียนได้ โดยทุกเว็บไซต์ของแต่ละศูนย์สอบก็จะมีหน้าตาแตกต่างกัน

    วันนี้เราจะยกตัวอย่างวิธีสมัครสอบ BMAT ผ่านหน้าเว็บไซต์ของ Capwise โดยมีขั้นตอนดังนี้

       

        1. เข้าเว็บไซต์ www.capwise.co.th/pages/bmat_testing/MQ== หน้าแรกจะเป็นการแสดง Timeline ในรอบเดือนนั้น ๆ ซึ่งข้อมูลจะแจ้งรายละเอียดของวันที่เริ่มเปิดรับสมัครและวันที่สอบ ไปจนถึงวันที่แจ้งผลสอบ

        1. ทำการลงทะเบียนหรือ “Sign Up” ด้วยอีเมลและตั้งค่า Password และทำการกดที่ “Register” ให้เรียบร้อย

        1. กรอก Personal Info ผู้สมัครต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวและตรวจทานให้ดีก่อนไปหน้าถัดไป

        1.  University ผู้สมัครต้องเลือกสถาบันที่ต้องการจะสมัคร

        1.  Access Arrangement หน้านี้สำหรับผู้ที่มีความบกพร่องหรือพิการ โดยสามารถที่จะเลือกความต้องการหรือแนวทางในการช่วยเหลือในระหว่างทำการสอบได้ ถ้าต้องการข้อไหนก็สามารถเลือกช่องนั้นได้เลย

        1. Select Test Center คือ การเลือกสนามสอบตามที่ผู้สมัครสะดวก โดยสามารถเลือกจาก list รายชื่อจังหวัดต่าง ๆ ได้ และนอกจากนี้ในแต่ละจังหวัดจะแจ้งสถานที่ในการสอบให้ผู้สมัครทราบด้วยเช่นกัน

        1.  ผู้สมัครสามารถเลือกการชำระเงินผ่าน Application โดยโอนจ่ายผ่านเคาน์เตอร์ที่ธนาคาร หลังจากที่ระบบได้รับการชำระเงินของผู้สมัครเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนใหญ่จะมีการส่งรายละเอียดอีกครั้งผ่านทางอีเมลดังนั้นอย่างลืมตรวจเช็คอีเมล์กันด้วยนะคะ

      วิธีสมัครสอบ BMAT โดยการกรอกแบบฟอร์ม

      1. BMAT Registration form หน้าแรก:  ผู้สมัครต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วน แต่อาจจะต้องระวังในส่วนของการสลับตำแหน่งระหว่างนามสกุลและชื่อจริงที่มักมีผู้กรอกผิดบ่อย ๆ

      2. BMAT Registration form หน้าสอง: เลือกชื่อสถาบันที่ต้องการจะสมัครสอบ

      3. BMAT Registration form หน้าสาม: กรณีที่ไม่มีรายชื่อสถาบันที่ต้องการสมัครอยู่ใน list ที่ให้มาในหน้าสอง สามารถแจ้งรายชื่อสถาบันที่อยากจะลงสมัครได้เลย

      4. BMAT Registration form หน้าสี่: เป็นการแจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายและ Access Arrangements ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

      • Maximum of 25% Extra Time อันนี้สำหรับคนพิการหรือมีความบกพร่องรวมไปถึงผู้ที่ป่วยในวันสอบ ซึ่งอาจจะมีการขยายเวลาในการสอบเพิ่มเติมสูงสุด 25%
      • สำหรับช่อง Reason for Access Arrangement Request จะต้องมีการแสดงหลักฐานมายืนยันในกรณีที่มีปัญหาทางด้านร่างกาย เช่น ใบรับรองแพทย์
      • Examination Admission Fee เป็นรายละเอียดค่าสอบที่ตกอยู่ประมาณ 6,950 บาท
      • สำหรับค่า Late Admission จะต้องจ่ายเพิ่มต่างหากอีก 2,000 บาท

      5. BMAT Registration form หน้าห้า: หน้าสุดท้าย คือ การอธิบายรายละเอียดของ Data Protection และการยินยอมในการตรวจสอบข้อมูลของผู้สมัครว่าเป็นความจริงหรือไม่ หากผู้สมัครสอบมีการบิดเบือนข้อมูลอาจจะเสียสิทธิ์ในการสอบได้ ดังนั้นขอแนะนำว่าข้อมูลทุกอย่างควรเป็นความจริง และหลังจากผู้สมัครได้อ่านข้อมูลอย่างละเอียดแล้วก็ลงชื่อพร้อมวันที่ในด้านล่างได้เลย

      กำหนดการสอบ BMAT ปี 2566

      เมื่อทุกคนได้พอทราบวิธีการสมัครสอบ BMAT ไปแล้วนั้นลองมาดูคอร์สดี ๆ ที่ทาง House of Griffin กับทีมวิชาการอยากจะมาแนะนำ เพื่อให้ทุกคนมีมั่นใจมากขึ้นและทางสถาบันสามารถช่วยวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนของนักเรียนทุกคนได้ตลอดหลักสูตร อีกทั้งยังช่วยให้นักเรียนทุกคนฝึกตะลุยโจทย์เก่าพร้อมทำ mock test จนมีความั่นใจจริง ๆ ก่อนลงสนามสอบ BMAT

      สนใจเรียนคอร์ส BMAT สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ https://www.houseofgriffin.com/courses/bmat/

      Share this article