หลังจากเราแนะนำให้รู้จักกับ GED ในบทบาทที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยกันแล้ว คราวนี้เรามาดูกันต่อว่า GED นั้นมีรายละเอียดอย่างไร
GED คืออะไร
GED คือ General Educational Development เป็นการสอบที่เทียบเท่ากับวุฒิการศึกษาระดับมัธยมปลายในประเทศไทย ตามหลักสูตรการศึกษาของสหรัฐอเมริกา เป็นที่ยอมรับในการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีภาคภาษาอังกฤษ (International Program) นักเรียนอาจจะรู้จัก GED ในคำอื่น เช่น High School Diploma, Equivalent M.6, Accredited เป็นต้น
ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรจึงจะสอบ GED ได้
สอบได้ตั้งแต่อายุ 16 ปี
เนื้อหาการสอบเป็นอย่างไร
การสอบนักเรียนต้องทำการสอบทั้งหมด 5 วิชาหลัก ดังนี้ Language Arts; Writing, Social Studies, Science, Language Arts; Reading และ Mathematics โดยแต่ละวิชาจะมีคะแนนเต็ม 800 คะแนน ผู้สอบต้องสอบให้ได้อย่างน้อย 410 คะแนนขึ้นไปต่อวิชาและได้คะแนนรวม 5 วิชาตั้งแต่ 2,000 คะแนนขึ้นไปจึงจะถือว่าสอบผ่านตามข้อกำหนดของหลักสูตร GED
วิชาส่วนใหญ่ที่สอบเป็นการสอบแบบปรนัย ยกเว้นข้อสอบวิชา Writing ที่เป็นการเขียนบทความ (Essay) ที่ต้องเขียนตอบ และมีบางส่วนของวิชา คณิตศาสตร์ ที่ต้องตอบด้วยคำตอบสั้นๆ มาดูกันว่าแต่ละวิชาลักษณะข้อสอบเป็นอย่างไรกันบ้าง
Language Arts; Writing การสอบ Writing + Reading Skills จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
ส่วนที่ 1 เกี่ยวกับโครงสร้างรูปประโยค, การใช้และการเชื่อมต่อประโยคและการอ่านข้อความจากสื่อต่างๆ แล้วนำมาแก้ไข ปรับเปลี่ยนให้ถูกต้องตามหลักมาตรฐานของ Edited American English (หรือเทียบเท่าในภาคภาษาสเปน และภาษาฝรั่งเศส)
ส่วนที่ 2 จะเป็นการเขียนบทความ (Essay) ตามหัวข้อที่กำหนดให้ การให้คะแนนบทความนั้นจะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น เน้นประเด็นสำคัญ ความชัดเจนของโครงร่าง การใส่ความคิดเห็นใหม่ๆ และดูการใช้ภาษาที่ถูกต้อง ซึ่งรวมถึงการเลือกใช้คำ การสะกดคำและการเว้นวรรค ทั้งนี้จะไม่มีการกำหนดจำนวนคำแต่ผู้สอบต้องเขียนให้ได้มากพอที่จะเข้าใจความหมาย
Social Studies เนื้อหาวิชาจะครอบคลุมประวัติศาสตร์อเมริกา ประวัติศาสตร์โลก การเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ และภูมิศาสตร์
Science เนื้อหาวิชาจะเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์แขนงต่างๆ ได้แก่ ฟิสิกซ์ เคมี และชีววิทยา
Language Arts; Reading ข้อสอบจะประกอบไปด้วย 5 บทความจากหนังสือนวนิยาย (Fiction) และ 2 บทความจากหนังสือ non-fiction โดยผู้สอบต้องอ่านแล้วทำความเข้าใจ เพื่อใช้ในการตอบคำถาม
Mathematicsข้อสอบคลอบคลุม บวก ลบ คูณ หาร, เลขสถิติ,เรขาคณิต, พีชคณิต จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
ส่วนที่ 1 อนุญาตให้ใช้เครื่องคิดเลขได้ ซึ่งเป็นแบบตามที่ศูนย์สอบกำหนดเท่านั้น
ส่วนที่ 2 ไม่อนุญาตให้ใช้ เนื้อหาวิชาจะเกี่ยวกับเรขาคณิต พีชคณิต เลขคณิต และการแก้โจทย์ต่างๆ
ถ้าสอบไม่ผ่านต้องทำอย่างไร
สามารถลงสอบได้ใหม่หลั
โดยปกตินักเรียนสามารถนำผลสอบที่ผ่านแล้วไปเทียบวุฒิ ม.6 จาก กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งวุฒินี้สามารถเก็บไว้ได้ตลอดไป ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการสมัครเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรี ทั้งในประเทศ (International Program) และต่างประเทศได้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน น้อง ๆ ไม่ต้องมีการเทียบวุฒิม. 6 ที่กระทรวงศึกษาธิการอีกต่อไปสามารถใช้ Diploma ที่ส่งตรงมาจากอเมริกาในการยื่นคะแนนได้เลย
ค่าใช้จ่ายในการสอบเป็นอย่างไร
ผู้เรียนสามารถลงทะเบียนสอบได้ผ่านเว็บไซท์ โดยชำระค่าสมัครสอบผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิตซึ่งมีรายละเอียดค่าใช้จ่ายและเวลาในการสอบดังต่อไปนี้
วิชาที่สอบ | ค่าสอบ | เวลาที่ใช้สอบ |
Mathematics | $116 | 1 h 30 m |
Science | $116 | 1 h 35 m |
Social Studies | $116 | 1 h 25 m |
Language Arts, Reading | $116 | 1 h 05 m |
Language Arts, Writing | $143 | 2 h 30 m |
Linked: Mathematics, Science, and Social Studies | $237 | |
Linked: Language Arts, Reading and Language Arts, Writing | $185 |
หากต้องการสอบถามเรื่อง ติว GED สามารถติดต่อ House of Griffin ได้โดยตรง ที่เบอร์ 0 2644 6006-7
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงขั้นตอนแรกของนักเรียนเท่านั้น ณ. จุดนี้นักเรียนก็จบม.ปลายโดยสมบูรณ์ แต่จะเข้าคณะอะไร มหาวิทยาลัยไหนนั้น ก็ต้องไปตามสอบตามที่ทางคณะฯ นั้น ๆ กำหนดไว้อีกที โดยทั่วไปถ้าเข้ามหิดลฯ ก็จะต้องมีคะแนน TOEFL Mahidol เข้าธรรมศาสตร์ก็ต้องมี TUGET และ SMART หรือถ้าเข้ามหาวิทยาลัยอื่น ๆ IELTS ก็เป็นที่ยอมรับในหลายคณะเช่นกัน
หวังว่าน้อง ๆ ทุกคนจะเข้าใจมากขึ้นนะคะ

GED
ติว GED กับ House of Griffin คลิกที่นี่
ปล. House of Griffin ไม่ใช่ศูนย์สอบ GED นะคะ น้องๆ สามารถติดต่อศูนย์สอบ GED ได้ที่ GED.com ค่ะ